เรื่อยเปื่อย Review: 2015

Preview WIFI DISPLAY DONGLE อุปกรณ์เปลี่ยน TV คุณให้เป็น Smart TV ในพริบตา

สวัสดีค่ะ........งานคอมมาร์ทกำลังจะจบแล้ววันนี้ (08-11-2015)

พอดีเราไปเจอเจ้าตัวนี้มา เนื่องจากเดินหา Chromecast ไม่เจอเลยค่ะ พอมาเจอตัวนี้ก็เลยตัดสินใจซื้อเลย

เจ้าตัวนี้คือ WIFI DISPLAY DONGLE ทำหน้าที่คล้ายๆ Chromecast ของ Google ค่ะ

คือมันจะทำหน้าที่เชร์หน้าจอ Smartphone หรือ Tablet ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือ IOS

ไปยัง TV ของเราได้ รวมไปถึงต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยนะคะ

อุปกรณ์ภายในกล่อง
1.ตัว WIFI DISPLAY DONGLE
2.สาย MicroUSB
3.สายต่อความยาว HDMI
4.คู่มือการใช้งาน

อุปกรณ์ภายในกล่อง

WIFI DISPLAY DONGLE

สายต่อความยาว HDMI

รองรับระบบ
1. Android 4.2 ขึ้นไป
2. iOS 7 ขึ้นไป
3. MAC 10.7
4. Windows XP/7/8/8.1
5. Windows Phone 8.1
6. DLNA / Airplay / Miracast
7. TV ที่มีช่อง HDMI

โดยคู่มือที่ให้มานั้นเป็นคู่มือภาษาไทยล้วนๆ อ่านง่ายค่ะ
จากการทดลองใช้งานเมื่อแชร์ภาพ หรือวีดีโอไปยังเจ้าตัวนี้ เมื่อแชร์ไปที่ TV แล้วภาพไม่หน่วง
ใช้งานง่ายค่ะ (เทียบกับ All share cast dongle ที่เรามีอยู่ของ Samsung กลับมีอาการหน่วงอย่าง
เห็นได้ชัด(ประมาณ 1-2 วินาที))
สนนราคาอยู่ที่ 2,290 บาท ในงานคอมมาร์ทลดเหลือ 1,590 บาท
(ใครสนใจลองสอบถามที่ ร้านค้า ดูนะคะ)
ส่วนตัวคิดว่า ใช้งานคุ้มค่านะคะ และราคาน่าซื้อมากค่ะ (หมายถึงราคาที่ลดแล้ว...^___^)

คร้้งหน้าเราจะมารีวิวการใช้งานนะคะ ^^

วิธีสร้างลายเซ็นบนภาพถ่ายง่ายๆบนสมาร์ทโฟน [Android]

เวลาเราถ่ายภาพสวยๆ อยากแชร์เข้าโซเชียลใหคนอื่นๆเห็น เราก็อยากใส่ลายเซ็นของเราลงบนภาพใช่มั้ยคะ วันนี้เรามีวิธีที่ไม่ยากมาฝากค่ะ

สิ่งทื่ต้องมี

1.โทรศัพท์ Smartphone
2. โปรแกรม S Note สำหรับเครื่อง Samsung Galaxy Note ทุกรุ่น
3. โปรแกรม SketchBook Express สำหรับ Smartphone ทั่วไปค่ะ [ฟรีค่ะ]
4. โปรแกรม Picsart [ฟรีค่ะ]
**กดที่ชื่โปรแกรมเพื่อดาวน์โหลดได้เลยค่ะ
เมื่อโหลดทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็มาเริ่มกันได้เลยค่ะ
1.เปิดโปรแกรม S Note หรือ Sketchbook เพื่อเขียนลายเซ็นที่ต้องการ [ในที่นี้ใช้ S Note]

2. เขียนลายเซ็นที่ต้องการ หรือหาภาพโลโก้ที่ชอบมาใส่ แนะนำให้ใช้พื้นหลังสีขาว หรือไม่ก็สีดำนะคะ
เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ให้เราจับภาพหน้าจอค่ะ เพื่อเซฟลายเซ็นเราให้เป็นรูป

3. ถ้ารูปลายเซ็นเราพื้นหลังสีขาว ตัวหนังสือสีดำ เราสามารถเปลี่ยนให้เป็นตัวหนังสือสีขาว พื้นหลังดำได้นะคะ โดยใช้โปรแกรม picsart เข้าโปรแกรมแล้วกดที่ Edit ค่ะ เลือก Gallery และเลือกรูปลายเซ็นที่เราทำไว้ค่ะ

4. เลือกลายเซ็นที่เราเซฟเก็บไว้ขึ้นมา จากนั้นกดที่ Effect ค่ะ

5.เลือกไปที่เมนู Color ค่ะ หลังจากนั้นเลื่อนแถบด้านล่างไปที่ Negative

เราจะได้รูปพื้นหลังดำ ตัวหนังสือสีขาวแล้วค่ะ เสร็จแล้วเราก็กดที่เครื่องหมายถูก[บนขวา]
และเซฟเก็บไว้ได้ใช้เลยค่ะ

ทีนี้ก็มาถึงวิธีใส่ลายเซ็นลงบนภาพแล้วนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ!!
1. เข้าโปรแกรม Picsart เช่นเดิม เลือก Edit และ Gallery เลือกรูปที่เราต้องการค่ะ

2. เลือกรูปที่ต้องการเสร็จแล้ว เลื่อนแถบข้างล่างเพื่อหาเมนูชื่อว่า Add Photo และเลือก Gallery เพื่อเลือกลายเซ็นมาใส่ค่ะ

3.เมื่อเลือกรูปลายเซ็นมาได้แล้ว [ดังรูป] ถ้าเป็นลายเซ็นพื้นหลังสีขาว ให้กดที่ลูกศรขวามือ แล้วเลือก Multiply ค่ะ เสร็จแล้วพื้นหลังสีขาวจะหายไป เหลือแต่ตัวหนังสือสีดำ เราก็จัดเรียง ย่อ/ขยายตามต้องการได้เลย เสร็จแล้วก็กดเครื่องหมายถูกมุมขวาล่างค่ะ

4.ถ้าลายเซ็นพื้นหลังสีดำ ให้กดที่ Screen ค่ะ จะเหลือเฉพาะตัวหนังสือสีขาวค่ะ เสร็จแล้วเราก็เลือกวางตำแหน่งตามใจชอบ จะย่อ/ขยาย ตามใจเราได้เลยค่ะ

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพพร้อมลายเซ็นแล้วค่ะ

มาดูกันว่า Note5 มีอะไรใหม่ที่ทำให้ต้องว้าววววว

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อย เรียกได้ว่าทำเอาร้องว้าววว ไปตามๆกัน สำหรับ Note5 ที่หลุดแล้วหลุดอีก

ซึ่งหลังจากเปิดตัวตอนนี้ก็เปิดเผย spec กันมาเต็มซะทีค่ะ

เรามาดู Spec กันก่อน

Spec Note5
- Operating System Android 5.1.1 Lollipop, TouchWiz
- Display 5.7-inch QHD (2560x1440, 518 ppi) Super AMOLED
- Processor Exynos 7420 octa-core (2.1GHz quad + 1.5GHz quad)
- 64bit, 14nm [ประหยัดแบตมากขึ้น]
- Storage 32 or 64GB, UFS 2.0
- Non-expandable
- RAM 4GB (LPDDR4)
- Rear Camera 16MP, f/1.9, OIS, phase detection auto focus
- 4K video, slow motion video , VDIS (VDO Digital Image Stabilizer)
- Front Camera 5MP, f/1.9
- Network LTE cat.9
- (network bands vary by market)
- Connectivity 802.11ac Wifi, 2.4/5GHz, MIMO (2x2), 620Mbps
- Bluetooth v4.2 LE, ANT+
- NFC, Location (GPS, Glonass, Beidou)
- Sensors Accelerometer, Proximity, RGB Light, Geo-magnetic, Gyro, Fingerprint, Barometer, Hall, HRM
- Charging Micro USB 2.0, Adaptive Fast Charging
- Qi wireless, Powermat wireless, fast wireless charging
- Battery 3000 mAh
- Non-removable
- Dimensions 153.2 x 76.1 x 7.6mm
- Weight 171g

ส่วนใครมองว่าเฉยๆ เรามาลองดูค่ะ ว่ามันมีอะไรเพิ่มนอกจาก spec กันบ้าง

สื่งที่เพิ่มเปลี่ยนไปจาก Note4

กล้อง
+ถ่าย RAW ได้
+ปรับ speed shutter ได้แบบ G4
+กล้องหน้าดีมาก (เพิ่มฟังก์ชั่นตาโต หน้าเรียว เอาใจสาวๆ)
+กล้องหน้าใช้ Palm selfie ได้เหมือน A7
+เพิ่มระบบกันสั่นในการถ่าย vdo ด้วยระบบ VDIS จะใช้คู่กับ OIS

S-pen
+แบบสปริง กดแล้วเด้งออกมาให้ดึง(ล็อค 2 ชั้น)
+สามารถดึงออกมาเขียนได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ
+เพิ่มแอพฯใน air command ได้ 3 แอพฯ
+สามารถ Capture หน้าเวปไดัทีเดียวทั้งหน้า

+Fast charging เร็วขึ้น(ชาร์จเต็มใน 90 นาที)
+เพิ่ม Fast wireless charging (ชาร์จเต็มใน 120 นาที เร็วขึ้น 1 ชม)
+Samsung pay ใช้แทนบัตรเครดิต

+Touchwiz ใหม่สามารถเพิ่ม/ลด grid เพิ่ม theme ได้
+S-View cover สามารถเลื่อน Notification tray ลงมาได้, สามารถถ่าย VDO ได้ S-View Cover
+เคสคีย์บอร์ด(แบบ BB)

ส่วน Accessories ก็มาเต็มมาก ไม่ว่าจะเป็น Swarofski Case

Clear View ก็สวยมาก

ขอบคุณภาพจากคุณ ooh44.Chakmon

เคสคีย์บอร์ด สำหรับคนชอบแชท สามารถำพับคีย์บอร์ดไปข้างหลังได้ด้วย

ห้อยท้ายข่าวด่วน ประกาศราคาขายทั้ง 2 รุ่นแล้ว

พร้อมขายวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ทั้ง 2 ความจุนะคะ(ส่วนวันที่ 15 นี้ อาจจะมีแค่รุ่น 32GB)

เผยภาพชัดๆของ Samsung Galaxy Note5 ไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยอีกต่อไป

ลุ้นกันจนเมื่อย สำหรับ Samsung Galaxy Note5 ซึ่งได้ฤกษ์กำหนดเปิดตัววันที่ 13 สิงหาคม 2558 นี้แล้ว ซึ่งภาพหลุดล่าสุดนั้น ชัดเจนจนเรียกได้ว่าไม่ต้องลุ้นกันอีกเลยทีเดียว

ด้วยดีไซน์ด้านเป็นแบบ glass-and-metal design โดยหน้าที่คล้าย Note4 (บางคนบอกคล้าย S6 แต่เหลี่ยมกว่า) ส่วนด้านหลังนั้น เป็นลักษณะโค้ง ซึ่งน่าจะทำให้การจับถนัดขึ้น ส่วนขอบเครื่องก็เป็นโลหะ(หวังว่าจะเป็นโลหะจริงๆ ไม่ใช่พลาสติกชุบสีโลหะ)

จากรูปบน ให้สังเกตุที่หน้าจอรูปกลาง จะเห็นฟังก์ชัน Air command ที่เป็นจุดเด่นและจุดขายของ Note มาในรูปแบบใหม่ โดยมีเมนู Action memo, Smart select, Screen write, S Note, Settings, และ Instagram จุดสังเกตุอีกจุดคือ Instagram นั่นอาจหมายความว่า Samsung จะให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเติม แอพฯที่ต้องการเข้าไปใน Air command ด้วยก็เป็นได้

ด้านบนจะมีรู 2 รู ซึ่งคาดว่าจะเป็นรูไมค์ ด้านล่างมีรูไมค์, รูลำโพง ช่อง S-Pen ซึ่งจากรูปนี้ จะเห็นได้ว่าไม่มีช่องให้เอาเล็บแงะ ซึ่งตามข่าวว่าจะเป็น สปริง นั่นหมายความว่า อาจจะเป็นการกดเข้าไปที่ตูด S-Pen แล้วจะเด้งออกมานั่นเอง ส่วนช่อง USB ยังเป็นแบบเดิมอยู่ (บางคนบ่นว่าทำไมไม่ใช้ USB Type C อาจเป็นเพราะตลาดยังไม่กว้างพอจะเสี่ยง)

ส่วนแบตเตอรี่นั้น Droid Life กล่าวว่าทาง Samsung จะใส่แบตเตอรี่ขนาด 3000mah มาให้ ซึ่งเรียกได้ว่าน้อยพอสมควร เห็นได้จากการที่ผู้ใช้จำนวนมากบ่นกันเรื่องแบตเตอรี่ของ S6 (หวังว่า CPU จะไม่ซดแบตฯ)

ส่วนเรื่องหน่วยความจำนั้น ข่าวว่า Note5 จะมาพร้อม RAM 4GB และ ROM 32 64 128GB ตามลำดับ

Note5 ถือเป็นการตอกย้ำว่า Samsung ได้ทิ้งรูปแบบเดิมๆในการออกแบบไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งการถอดแบตฯ, การเพิ่มหน่วยความจำด้วย MicroSD

.......ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใช้งานแล้วล่ะว่า จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Samsung ได้หรือไม่? เพราะค่ายอื่นๆนั้นยังคงรักษารูปแบบเดิมเช่น LG G4 ยังคงเรื่องการถอดแบตเปลี่ยนได้ และ Motorola ในรุ่น Moto X ก็ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วย MicroSD ได้นั่นเอง

คุณล่ะ....จะเปลี่ยนมั้ย?

ที่มา : Theverge

How To : กล้อง Galaxy S6/S6 Edge สามารถล็อคโฟกัส และเลือกวัดแสงเฉพาะจุดได้นะเออ

หลายๆคนอาจจะงง ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นี่นา ที่เลือกจุดโฟกัสและวัดแสงเฉพาะจุดได้ในกล้องโทรศัพท์ แต่ในที่นี้หมายถึง เลือกจุดโฟกัสแล้วสามารถเลือกวัดแสงแยกจากจุดโฟกัสได้ ซึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้นั้น เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีรุ่นไหนทำได้(ยกเว้น dtac eagle)

ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่า S6/S6 edge นั้นทำยังไง

+ ก่อนอื่นต้องเปิดโปรแกรมกล้อง และเลือกโหมดโปร(Pro) ก่อน
หลังจากนั้น ที่ฝั่งซ้าย เลือกวัดแสง(Metering) แบบ Spot

คราวนี้เราเลือกแตะจอที่วัตถุที่เราต้องการจะโฟกัสจะมีวงกลมสีขาวขึ้นมา แต่ให้เราแตะจอค้างไว้ จะกลายเป็นวงกลมสีฟ้า(มีคำว่า AF/AE ขึ้นมา)

หลังจากนั้นยกนิ้วขึ้น แล้วแตะซ้ำลงไปที่เดิม แล้วลากนิ้วไปที่อื่น คราวนี้เราจะเห็นว่าวงกลมสีฟ้าที่มี AE อยู่ข้างบน จะแยกตัวออกมาจากวงกลมสีขาวละ นั่นคือเราสามารถลากไปตรงจุดไหนก็ได้ของภาพค่ะ เพื่อวัดสภาพแสงที่เราต้องการ

มาดูภาพตัวอย่างกัน (เห็นมั้ยคะ AF กับ AE แยกกัน)

ภาพที่ 1 โฟกัสที่หางของม้าโพนี่สีชมพู(ลมแรง ตั้งตุ๊กตาไม่ได้^^")
เลือกวัดแสงที่ท้องฟ้า ซึ่งสว่างกว่าตรงหางม้า(ภาพที่ได้จะมืดลง)

ภาพที่ 2 โฟกัสที่เดียวกันคือ หางม้าโพนี่สีชมพู

แต่เลือกวัดแสงที่ขอบเบาะซึ่งมืดกว่าตรงหางม้า ภาพที่ได้จึงสว่างขึ้น

ทีนี้หลายคนอาจจะยังงงๆว่า แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร มีประโยชน์มากค่ะ ในกรณีที่เราต้องการถ่ายวัตถุอย่างหนึ่ง(ไม่ว่าจะคน สัตว์ สิ่งของ) แล้วตัวแบบอยู่ในจุดที่มืดๆ ทำให้มองเห็นไม่ชัด เราสามารถใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มความสว่างของภาพได้ค่ะ โดยเลือกตามจุดแสงที่เราต้องการ

บางคนบอกว่าใช้วิธีปรับ EV+ ก็สิ้นเรื่อง ได้ค่ะ แต่แสงที่ได้มันจะเป็นระดับๆ อาจจะไม่ได้อย่างที่เราต้องการค่ะ

เทคนิคง่ายๆ เอาไปลองใช้กันค่ะ จะได้ถ่ายภาพได้อย่างสนุกมากขึ้น^^

HOW TO มาเปลี่ยน icon บน TouchWiz กันเถอะ [Root]

สวัสดีค่ะ

หลังจากคราวก่อนได้แนะนำวิธีปลดลปล่อยเจ้า Note ของเราให้เป็นอิสระแล้ว จากบทความนี้

Root/install CWM Recovery Samsung Galaxy Note Edge

Root Samsung Galaxy Note4 KitKat & Lollipop

หลังจาก Root แล้วเรามาปรับแต่งเครื่องกันเถอะค่ะ ^_^

สำหรับใครที่ไม่ชอบ icon เดิมของเครื่อง (TouchWiz) แต่ไม่อยากลง launcher ให้หนักเครื่อง วันนี้เลยขอเสนอวิธีเปลี่ยน icon ค่ะ การเปลี่ยนนี้จะเปลี่ยน icon ยกชุดเลย ^^

เริ่มกันเลยค่ะ

1. โหลดโปรแกรม WizIconizer เวอร์ชั่น 1.0.8 แล้วทำการติดตั้ง

2. เปิดโปรแกรมค่ะ

3. เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอมี 2 หน้าคือ LOCAL กับ ONLINE

+ LOCAL คือ ICON ที่อยู่ในเครื่อง
+ ONLINE คือ ICON ที่เราไปโหลดมาค่ะ เลือกหน้า ONLINE แล้วจิ้มที่ Google Play ค่ะ แอพจะพาเราเข้าไปโหลด icon จาก Google Play อัตโนมัติค่ะ ทีนี้เราก็เลือก icon ที่ชอบแล้วทำการติดตั้งเลย