LINE MAN พร้อมรับมือปัญหา COVID-19 ช่วงปีใหม่ เปิดรับคนขับเพิ่ม 29 จังหวัดทั่วไทย

 

จากสถานการณ์ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ทำให้ร้านอาหารต้องจำกัดการขายภายในพื้นที่ร้าน และประชาชนจำนวนมากเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ทำให้บริการส่งอาหารแบบเดลิเวอรีเป็นกำลังสำคัญของสังคมไทยช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2564

LINE MAN จึงเตรียมมาตรการรับมือปัญหา COVID-19 ทั้งในแง่ความปลอดภัยของผู้ส่งอาหาร ร้านค้า ลูกค้า และการเพิ่มระบบรองรับปริมาณการสั่งอาหารเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ 2564

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ระบุว่า “ผู้ส่งอาหารกลายเป็นกำลังสำคัญในช่วงการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ช่วงปีใหม่ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการส่งอาหารถึงบ้านโดยไม่ต้องออกไปไหน  ทาง LINE MAN จึงกำชับมาตรการด้านความปลอดภัยของผู้ส่งอาหาร ซึ่งเป็นตัวกลางคอยเชื่อมระหว่างร้านอาหารและลูกค้า ทั้งการสวมหน้ากาก วิธีการรับ-ส่งอาหารแบบไม่ต้องสัมผัสมือ และกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกจ่ายเงินผ่าน e-Payment แทนการใช้เงินสด”

“ส่วนปริมาณการสั่งอาหารที่เพิ่มขึ้นในช่วงล็อคดาวน์บางพื้นที่-คนไทยกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่ ทาง LINE MAN ก็เตรียมความพร้อม โดยเพิ่มกำลังมอนิเตอร์การสั่งอาหารในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าไม่ติดขัดด้วยเช่นกัน”

LINE MAN ยังเปิดรับคนขับส่งอาหารในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีรายได้สูงสุดถึง 25,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นกับปริมาณงานและพื้นที่ให้บริการ) ผู้สนใจสามารถสมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ทางแอปฯ LINE MAN Rider จาก Google Play Store (รองรับเฉพาะ Android) ในช่วง COVID-19 ยังมีอินเซนทีฟพิเศษ และฟรีเสื้อแจ็คเก็ตกับกล่องส่งอาหารอีกด้วย 

ปัจจุบัน LINE MAN เปิดรับคนขับเพิ่มใน 29 จังหวัดทั่วไทย ดังนี้

• ภาคเหนือ เชียงใหม่ แพร่

• ภาคกลาง อยุธยา ลพบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ชัยนาถ อ่างทอง สิงห์บุรี กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย เพชรบูรณ์ ตาก

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชศรีมา ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร ศรีสะเกษ

• ภาคตะวันออก ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี

• ภาคใต้ สงขลา ภูเก็ต สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี พัทลุง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครคนขับได้ที่ https://lineman.freshdesk.com/support/solutions/19000103179 

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE MAN Rider ได้ที่ https://bit.ly/3n0hwmn

[รีวิว] Huawei Scale 3 เครื่องชั่งน้ำหนักที่สามารถ ชั่ง ตรวจ วัด ค่าต่างๆในร่างกายได้เพียบ

 [รีวิว] เครื่องชั่งน้ำหนัก Huawei Scale 3

สเปค Huawei Scale 3

- ขนาด 300มม. x 300มม. x 23.6มม.
- หน้าจอ LED
- น้ำหนัก 1.57 กก
- วัสดุทำจากกระจกนิรภัยและฟิล์ม ITO (อิเล็กโทรดสำหรับวัดไขมัน) และ ABS
- มาตราวัด 11 ค่า (BMI, สัดส่วนไขมัน, อัตราเผาผลาญ, ไขมันในช่องท้อง, มวลกล้ามเนื้อติดกระดูก, อัตราการเต้นของหัวใจ, BMR, มวลกระดูก, โปรตีน, ปริมาณน้ำในร่างกาย)
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 BLE และ Wifi 2.4 GHz
- เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานสูงสุด 10 คน
- สามารถอัพเดท software ผ่าน OTA
- รองกับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 9.0 ขึ้นไป

Huawei Scale 3 มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรู ด้านบนวัสดุทำจากกระจกนิรภัยและฟิล์ม ITO (อิเล็กโทรดสำหรับวัดไขมัน) และด้านล่าง ABS ใช้ภ่าน AAA จำนวน 4 ก้อน

หน้าจอแสดงผล LED จะแสดงผล การวัด 3 อย่างคือ น้ำหนัก, เปอร์เซ็นต์ไขมัน และ อัตราการเต้นของหัวใจ

รายละเอียดอื่นๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้บนแอป Huawei Health ซึ่งบอกไว้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น BMI, สัดส่วนไขมัน, อัตราเผาผลาญ, ไขมันในช่องท้อง, มวลกล้ามเนื้อติดกระดูก, อัตราการเต้นของหัวใจ, BMR, มวลกระดูก, โปรตีน, ปริมาณน้ำในร่างกาย (ขึ้นอยู่กับประเทศที่ลงทะเบียน Huawei Account)

นอกจากโปรไฟล์ของเจ้าของ Huawei Account แล้ว ยังสามารถเพิ่มโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้อีกสูงสุดรวม 10 โปรไฟล์ และยังสามารถสร้างโปรไฟล์ Guest สำหรับคนที่เราไม่ต้องการเก็บข้อมูลไว้ใน 10 โปรไฟล์ดังกล่าวอีกด้วย

จากการใช้งาน ยังมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แม้ว่าการเชื่อมต่อทำได้ง่ายมาก แต่บางครั้งก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ รวมถึงการวัดเปอร์เซ็นต์ไขมัน บางครั้งมีการวัดได้ค่าที่ผิดพลาดไปบ้าง หากยังไม่ได้เพิ่มโปรไฟล์ของผู้วัด

[รีวิว] Huawei Y7a สมาร์ทโฟนสุดคุ้มราคาแค่ 5,999 บาท

สเปค Huawei Y7a

- หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว Huawei Ultra FullView Display
- ความคมชัดระดับ 2,400x1,080 FHD+
- CPU Huawei Kirin 710A Octa-core
- GPU Mali G51-MP4
- OS EMUI 10.1 บน Android 10
- หน่วยความจุ RAM 4GB และ ROM 128GB
- รองรับ SD Card สูงสุด 512 GB
- รองรับ 2 Nano Sim
- กล้องหลัง 4 ตัว
        - Hi-Res ความละเอียด 48 MP (f/1.8)
        - Ultra-Wide ความละเอียด 8 MP (f/2.4)
        - Bokeh Lens ความละเอียด 2 MP (f/2.4)
        - Macro Lens ความละเอียด 2 MP (f/2.4)
- กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP (f/2.4)  
- ระบบรักษาความปลอดภัย แสกนนิ้วด้านข้าง
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับ Huawei Supercharge 22.5W
- ขนาด 165.65 มม. x 76.77 มม. x 9.26 มม.
- วางจำหน่าย 3 สี Crush Green, Blush Gold, Midnight Black

 

Huawei Y7a มาด้วยดีไซน์ที่สวยงาม เผยด้านหลังให้เห็นเต็มตา ไม่มีช่องแสกนนิ้วให้กวนใจ โดยได้ทำการย้ายเซ็นเซอร์แสกนนิ้วไปไว้กับปุ่มเปิดเครื่อง ทำให้แสกนนิ้วได้รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม

 

Huawei Y7a นอกจากสเปคจะดีแล้ว ยังมาพร้อมกับกล้องที่ตอบโจทย์คนรักการถ่ายรูปอีกด้วย เพราะมีกล้องหลังมาถึง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 48 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมกับ AI ช่วยประมวลผลให้ภาพถ่าย มีความสวยงามเพิ่มมากขึ้น

นอกจากเลนส์หลักแล้ว ยังมีเลนส์ Ultra Wide ทำให้เก็บภาพมุมกว้างได้ง่ายๆ 

เลนส์ Bokeh ทำให้ภาพหน้าชัดหลังเบลอ สวยแบบธรรมชาติ

และเลนส์ Macro ทำให้การถ่ายภาพระยะใกล้ได้คมชัด ใกล้สุดได้ถึง 4 ซม. เลยทีเดียว

 

Huawei Y7a ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ 146,042 คะแนน

ทดสอบ benchmark จากแอปพลิเคชัน GeekBench ได้คะแนน Single-Core  299 คะแนน และ Multi-Core  1,319 คะแนน

ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ได้ความเร็วในการอ่าน Storage ที่ 181.54 MB/s และเขียนที่ 308.24 MB/s

ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด

การดาวน์โหลดและติดตั้งแอพฯ

 

หลายๆคน ยังมีความกังวลเกี่ยวกับ Google Play ที่ไม่สามารถใช้ได้ แต่ Huawei Y7a ได้ใส่ AppGallery และ Petal Search มาให้ในตัวเครื่อง ซึ่งพูดได้เลยว่าสะดวกต่อการใช้งานมากๆ สามารถดาวน์โหลดได้ทุกแอป