ป้ายกำกับ

รีวิว New Balance Fuelcell SpeedRift Energy Streak สปอร์ตพันธุ์แท้สำหรับสาย Speed Work


FULL REVIEW

สวัสดีฮะ หลังจากที่เราได้แนะนำ รองเท้าวิ่งที่ถือได้ว่ามีดีไซน์ได้แจ่มสะดุดตาและแหวกแนวสุดๆ รุ่นนึงในตลาดตอนนี้อย่าง New Balance Fuelcell SpeedRift Energy Streak (ต่อไปนี้เราจะขอเรียกมันว่า "SpRi") วันนี้เราก็จะมาคุยถึง performance ของเจ้าตัวนี้กันนะครับ!

วางขายแล้ววันนี้ > ที่นี่

NB SpRi เป็นรองเท้าในกลุ่มทำความเร็ว เหมาะสำหรับการ Speed work 

• ไซค์ 9us
• น้ำหนัก 250g 
• ดรอป 6 มม. ส้น 26มม. ปลายเท้า 20มม.


ช่วงล่าง (midsole/insole/outsole)รองเท้าประกอบไปด้วย โฟม Fuelcell / Pebex Plate ที่ถูกวางไว้เพื่อสร้าง Stability และช่วยเรื่องการดีดตัว / แผ่น insole ลายไม้ มี Texture แบบพื้นไม้ปาเก้ / มีองศาช่วย Toe off ลักษณะเหมือนคานดีดคานงัด รีดความรวดเร็วในช่วง Toe off ได้ดี / outsole ที่ยอดเยี่ยม แบบเต็มแผ่น

จุดที่น่าสนใจหลายๆจุดของ Upper เจ้า SpRi คือ... 

1.หูร้อยเชือกสีดำ ที่อยู่แถวบนของรูร้อยเชือก 2 ช่องบน ช่วยให้รัดเชือกได้กระชับเข้ารูปกับหน้าเท้า ลดพื้นที่ได้ดี

2. Pull tab หรือจุดช่วยดึงที่ลิ้นรองเท้า และตรง Heel counter ที่เอ็นร้อยหวาย ช่วยให้สวมใส่ได้ง่าย


3. ด้านในลิ้นรองเท้ามี ผ้าที่โอบรัดเท้าเราอีกชั้น (ยึดติดกับ Stroble) ป้องกันการขยับของลิ้น

4. ลิ้นรองเท้าแบบบาง และมี Pad 4เหลี่ยม ที่ช่วยป้องกันการกดทับ ตอนเรามัดเชือก จุดนี้ผมชอบมากครับ เราสามารถ มัดเชือกล๊อคข้อเท้าไว้ โดยที่ไม่มีอาการของปมเชือกไปกดทับที่เท้าเรา ที่มักจะมีปัญหากับรองเท้าลิ้นบางๆ

5. เชือก แม้เส้นจะไม่หนา แต่เมื่อออกแรงมัดปมแล้วมันนุ่มพอให้ปมเชือกแน่นมาก ไม่หลุดง่ายๆ


6. ล๊อคข้อเท้าดีมาก ไม่มีความรู้สึก จะหลุดๆ แม้ heel counter จะดูบาง

ถือว่าเป็นรองเท้าที่ผมประทับใจเรื่อง ความใส่ใจในการออกแบบมาเพื่อ user จริงๆ เมื่อคุณได้รองเท้ามา คุณสามารถถอดเชือกออกทั้งหมด แล้วสวมเท้าเข้าไป ร้อยเชือก Fitting ปรับได้หลายจุดเพื่อให้เข้ากับรูปเท้าได้ดี
------------------------------------------------------------------------
Feeling ในการวิ่ง


SpRi เป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึก 
-มั่นคง(stability) 8/10
-เกาะถนนเยี่ยม 10/10
-ส่งกำลังได้ไว 8/10 
-ไม่นุ่มมาก ตอบสนองไว(ค่อนไปทางกระด้าง แต่ไม่ถึงขนาด flat) อันนี้อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนครับ สรุปว่า Comfort น้อย *** แต่ถ้าชอบรองเท้านุ่ม 4/10
-องศาช่วย Toe off ถือว่าดีมากเมื่อรวมกับ ความมั่นคง และ เกาะถนน 9/10
-รับแรงกระแทก (Cushion) 7/10
-แรงดีด (Springy) 6/10 
-แรงเด้ง (Bouncing-Energy Return) 5/10
- Feel ground ค่อนข้างไปทางน้อยเมื่อวิ่งช้า และมากขึ้นชัดเจนเมื่อเพิ่มความเร็ว
- ลงเท้าได้ทั้ง Heel Strike / midfoot strike ทั้งส้นเท้า และกลางเท้า

สรุปว่า... ฟิลลิ่ง คือเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ speed work ในรูปแบบ Cruise Controll ครับ อย่างเช่น Tempo Run ที่เน้นคงความเร็วเป็นจังหวะ

SpRi มีให้ทั้งความมั่นคงที่ดี ไม่ว่าจะเข้าโค้งแบบไหนก็ทำได้ดีครับ ผมเทสที่โค้งตัว L มากกว่า 160 ครั้ง ต่อ 1 woktout ไม่มีอาการโคลง ไม่ว่าจะลงที่ส้นเท้าหรือกลางเท้า

+การเกาะถนนที่ดีเยี่ยม+องศาช่วย Toe off + Transition ส่งแรงได้รวดเร็วไหนลื่น ควงเท้า รีดรอบขาได้ไหลลื่น มี cushioning ในระดับที่ ปานกลาง-ดี ไม่ดิบเกินไป


ความสบายส่วนมาก มาจากความสบายของการ Fitting ที่ทำให้รองเท้าไปกับเราได้ดี (ไม่ค่อยนุ่มนะ ย้ำอีกที)
 
------------------------------------------------------------------------
Workout Test ทั้งหมด 3 workout 

1.เทส ez run ที่ pace 5:40 > 5:20 ในระยะ 10-15km

ผลออกมาค่อนข้างน่าประทับใจครับ 
-รองเท้ามีการตอบสนองต่อความเร็ว ที่ pace5 ได้ดีทีเดียว ไหลลื่น ควงขาไปได้เรื่อยๆ 
-Feel Ground ไม่สูงไม่ทำให้เมื่อเท้ามากไป 
-มีแรงดีดและเด้งส่งมาให้พอรู้สึกบ้าง 
-Cushion มีพอให้ใช้เหลือเฟือสำหรับ Ez run

2. Moderate ปานกลาง ที่ pace 5:10 > 4:50 ระยะ 10-12km

-เป็นช่วงที่ Feel Ground  เริ่มสูงขึ้นชัดเจน เราจะรู้สึกถึงพื้นได้มากขึ้น 
-Cushion ยังถือว่าเอาอยู่ครับ
-Cost of cushion ไม่สูงไป ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตอนวิ่งความเร็วระดับปานกลางได้ดี
-แรงดีด และเด้งก็ยังแค่พอมีให้รู้สึกบ้างครับ ไม่ได้ชัดมาก

3. Tempo Run ที่ pace 4:40 > 4:00

เป็น workout ที่เหมาะกับรองเท้าคู่นี้จริงๆครับ ไหลลื่น คอนโทรลได้ง่าย รอบขามาไว ควงขาไปได้เรื่อยๆจริงๆ เข้าโค้งด้วยความเร็วก็ไม่รู้สึกโคลง Fitting ดีๆ จะรู้สึกว่ามันเบาไม่ต่างกับ Flat Racing เลยครับ เกาะถนนก็ดีมาก 

เป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึก Feel Fast และ Cruise Controll จริงๆ

สรุป... ถ้าคุณไม่ติดเรื่องปริมาณ Cushion ไม่มากพอ รองเท้าคู่นี้แทบจะครอบคลุมการซ้อมได้ดีทั้ง 3 แบบ เลยครับ เหมาะทั้งสำหรับเป็น Daily Training 

และเป็นรองเท้าสำหรับ Speed work ของผู้ที่ชื่นชอบรองเท้าเบา ไม่ชอบนุ่มมาก ยิ่งคุ้นเคยกับ Flat Racing มา อยากให้ลองจริงๆๆครับ
------------------------------------------------------------------------

เรื่องไซค์ 

คู่นี้คือ 9us หรือ 27CM วัดแผ่น insole ได้ 28cm

สำหรับผมที่เท้า 26.2cm ใส่แล้วหัวรองเท้าเหลืออยู่ เกือบๆ 2cm 

สำหรับคนหน้าเท้าปกติ (ไม่กว้าง) แนะนำให้ใส่ ตรงไซค์ได้เลย (+1.0cm จากความยาวเท้าจริง) เช่น เท้ายาว 26cm ใส่ 27cm หรือถ้าชอบกระชับ ให้ลด ครึ่งไซค์

แต่ถ้าหน้าเท้ากว้าง ระดับ E ขึ้นไป - 3E ต้อง +ครึ่งไซค์ขึ้นไปครับ หน้าเท้าถึงจะพอดี

แต่.... ตัวผมเองหน้าเท้ากว้าง 3E ความยาวเท้า 26.2cm แต่สามารถใส่ 9us หรือ 27cm ได้ จากการ Fitting ใหม่ จากที่ตอนแรก บีบเท้ามาก

-ปรับไปใส่ถุงเท้าบาง
-ร้อยเชือก ข้ามแถวที่ 2 และเอาออกจากหูร้อยเชือกสีดำ ลดความแน่นลง
-และทดลองถอด insole 

ปรากฏว่า Toe box ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาก คนหน้าเท้ากว้างแบบผมใส่ได้สบายเลยครับ ไม่บีบ กระชับพอดี

แต่ถ้าหน้าเท้ากว้างแนะนำว่า หารองเท้าที่เหมาะ(พวกรองเท้าหน้ากว้าง 2E-4E)จะดีกว่าครับ

วางขายแล้ววันนี้ > ที่นี่

“OPPO” ประกาศความพร้อมด้าน 5G โชว์แสงสี “OPPO 5G” บนตึก Pearl Bangkok เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ซีรีส์ พบกัน 5 ตุลาคมนี้

OPPO พร้อมแล้วให้คนไทยทุกคนได้สัมผัสกับสุดยอดประสบการณ์ 5G ผ่านที่สุดของนวัตกรรมสมาร์ทโฟน 5G ซีรีส์จากออปโป้ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่เร็วกว่า แรงกว่า เสถียรกว่าอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการจัดโชว์แสงสี “OPPO 5G” สุดตระการตาบนตึก Pearl Bangkok 
ประกาศความพร้อมมุ่งสู่อนาคตที่เร็ว แรง ไร้สะดุด เพื่อไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ปลดล็อกทุกขีดจำกัด เติมเต็มประสิทธิภาพให้ชีวิตแบบไม่มีลิมิตทั้ง Work & Play  ให้คุณอัพเดตไลฟ์สไตล์ของคุณ และเชื่อมต่อกับเพื่อนได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ ส่งวิดีโอ ทำงาน หรือเล่มเกมส์ ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุดไปกับ OPPO 5G Series

เตรียมตัวพบกับสุดยอดประสบการณ์ความเร็ว แรง พร้อมกันเร็วๆนี้ !
#OPPO5GNOW #Your5GExperienceStartsHere

OPPO ยกระดับประสบการณ์อัจฉริยะและการเชื่อมต่อในหลากหลายอุปกรณ์ ด้วยการร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรและนักพัฒนา

 



OPPO แบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกได้จัดงาน OPPO Developer Conference (ODC) ผ่านทางออนไลน์ ภายใต้หัวข้อ “For a Future of Convergence” โดยภายในงาน OPPO ได้เปิดตัว ColorOS 11 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ทางด้านอุปกรณ์ IoT “ให้คุณสนุกไปกับชีวิตที่ชาญฉลาดและยอดเยี่ยม” นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย
 

“ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบครบวงจรทั่วโลก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับนักพัฒนาที่โดดเด่นทั่วโลกในการร่วมกันสร้าง ecosystem ใหม่ บนประสบการณ์การใช้การอินเตอร์เน็ต” Henry Duan, Vice President และ President of Internet Services ของ OPPO กล่าว “เราจะทำงานร่วมกันกับนักพัฒนาและเหล่าพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหา Internet ecosystem ที่เปิดกว้างและครบวงจร รวมถึงมอบประสบการณ์ที่อัจฉริยะและไหลลื่นมากขึ้นให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก




 
ColorOS มีผู้ใช้งานทั่วโลกแล้วมากกว่า 370 ล้านคนต่อเดือน จากการสะสมจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากในแอปพลิเคชั่น การบริการ และ content ecosystem นอกจากนี้ ยังมีนักพัฒนากว่า 140,000 คน เข้าใช้แพลตฟอร์มแบบเปิดของ OPPO และ มีจำนวนเข้าใช้งานในบริการแบบเปิดจาก OPPO มากกว่า 18 พันล้านครั้งต่อวัน ซึ่ง ecosystem ของแอปพลิเคชั่นทั่วโลกของ OPPO นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยผู้ใช้งานมากกว่า 330 ล้านคนต่อเดือนและใช้บริการมากกว่า 1.7 พันล้านครั้งต่อวัน
การประกาศ “seven system-level capability exposure engines” หรือ เจ็ดเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ พร้อมคงความปลอดภัยด้านการใช้งาน


ในฐานะ OEM รายแรกที่ให้บริการ Android 11 แก่ผู้ใช้ OPPO จึงหวังที่จะสร้างประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีที่ไหลลื่นให้แก่ผู้ใช้ผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงระบบของ OPPO ได้ดียิ่งขึ้น ColorOS จึงเปิดเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอีก 2 เครื่องมือ คือ AIUnit และ FusionUnit ส่วนอีก 5 เครื่องมือนั้น ประกอบด้วย CameraUnit, MediaUnit, Hyper Boost, Link Boost, และ ARUnit  ซึ่งเครื่องมือทั้งเจ็ดใน ColorOS นี้จะทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ทางด้านเทคโนโลยีได้ดียิ่งขึ้น


ColorOS 11 ถือเป็น ColorOS รุ่นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบแบบ “ไร้ขอบเขต” ในการใช้งานและการเชื่อมต่อเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไหลลื่น เชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ และใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ อีกทั้ง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และความปลอดภัยของ ecosystem ทำให้ ColorOS 11 ที่ทำงานบน Android 11 ใหม่ เพิ่มตัวเลือกในการป้องกันความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ในการป้องกันความปลอดภัยด้านข้อมูล นอกจากนี้ ColorOS ยังได้รับการรับรองจากองค์กรมาตรฐานระดับโลก อาทิ ISO และ ePrivacy ที่แสดงถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมสูงสุดในด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัว 3 สถานการณ์หลัก ที่จะมอบประสบการณ์อันชาญฉลาดและยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้
ด้วยการเริ่มต้นของยุค IoT ( Internet of Things ) OPPO จะมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์การใช้งานสามแบบตามความต้องการหลักของผู้ใช้ คือ ความบันเทิงเฉพาะบุคคล เครื่องใช้ในบ้านและของตกแต่ง รวมไปถึงด้านกีฬาและสุขภาพ นอกจากนี้ ด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์ IoT ที่หลากหลายและความร่วมมือกันในด้านระบบนิเวศ ผู้ใช้จะสามารถเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะในสถานการณ์ที่หลากหลายได้หลายอุปกรณ์ ด้วยแนวคิดนี้จึงทำให้ OPPO เปิดตัว HeyTap Health Platform เป็นครั้งแรกเพื่อเสริมสร้าง OPPO IoT ecosystem


นอกจากนี้ OPPO ได้เปิดตัว “แผนการเปิดใช้งาน IoT 2.0 (IoT Enablement Plan 2.0) ” ในการประชุมครั้งนี้ด้วย โดย OPPO เป็นผู้นำในการลงทุนทรัพยากร 29.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในด้านระบบนิเวศในระยะยาวทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ การตลาด และช่องทาง ในขณะเดียวกัน สำหรับการใช้ประโยชน์จากระบบการเปิดใช้งานทั้งห้าของแพลตฟอร์ม HeyThings IoT  นั้น OPPO จะเริ่มต้นสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำลายกำแพงระหว่างเทคโนโลยีและประสบการณ์เพื่อมอบ "ชีวิตที่ชาญฉลาดและยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้”
สำหรับแผนการเปิดใช้งาน IoT แผนแรกของ OPPO ได้เปิดตัวขึ้นในงาน ODC 2019 แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางเทคนิคของ OPPO IoT ecosystem ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยบริษัทได้เปิดตัวอุปกรณ์อัจฉริยะหลายรุ่นอย่างต่อเนื่อง อาทิ OPPO Enco Series, OPPO Watch และ 5G CPE รวมไปถึงการทำงานร่วมกันกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากกว่า 30 แบรนด์ในอุตสาหกรรม พร้อมมอบประเภทผลิตภัณฑ์กว่า 50 ประเภท และหน่วยผลิตภัณฑ์ (SKU) มากกว่า 300 หน่วย
การมุ่งเน้นระบบนิเวศสามโมดูลเพื่อสนับสนุนนักพัฒนา เป็นเวลานานที่ OPPO ได้พัฒนา Internet ecosystem อย่างต่อเนื่อง ด้วยแพลตฟอร์มแบบเปิดของ OPPO ที่ถือเป็นเสมือนหน้าต่างและความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก ทางบริษัทจึงสร้างโมดูลระบบนิเวศ 3 โมดูล ได้แก่ แอปพลิเคชัน บริการ และเนื้อหาเพื่อให้บริการแบบครบวงจรให้แก่นักพัฒนาซึ่งครอบคลุมวงจรของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
การพัฒนาธุรกิจคอนเทนต์ เป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นด้วยการสนับสนุนของพาร์ทเนอร์ชั้นนำในอุตสาหกรรม โดยความร่วมมือระหว่าง OPPO และแพลตฟอร์มเนื้อหาคุณภาพสูงระดับโลกอย่าง Vision และ Dailymotion ทำให้ผู้ใช้ content ecosystem ของ OPPO เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 280 ล้านคน และการแสดงผลเนื้อหารายวันโดยเฉลี่ยมากกว่า 10,000 ล้านคน





ในปัจจุบันด้วยความนิยมใน 5G ที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นส่วนให้การรวมกันของ 5G และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น AI, AR และการประมวลผลแบบคลาวด์เกิดรูปแบบประสบการณ์และบริการใหม่ๆ ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการทั่วโลกรวมถึงการบริการด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ OPPO จะยังคงมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกโดยยังยึดมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจแบบ “win-win” สนับสนุนนักพัฒนาและพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่างครอบคลุมตั้งแต่การเปิดกว้างด้านความสามารถไปจนถึงการลงทุนด้านทรัพยากร โดยทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง ecosystem บนอินเทอร์เน็ตที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้คุณได้สัมผัส

Nike เตรียมปล่อย Air Zoom Tempo Next% BY You ให้คุณได้ออกแบบดีไซน์รองเท้าวิ่งระดับท้อปของคุณได้ตามใจ


NIKE ONLINE STORE เตรียมเปิดให้พวกเราได้สอย AIR ZOOM TEMPO NEXT % รองเท้าซ้อม/แข่งทำความเร็วระดับท้อป ในแบบ BY YOU แล้วครับ

สนใจกด Air Zoom Tempo% Next BY YOU

โดยใน BY YOU นั้น จะเป็นส่วนที่ให้บริการของ NIKE ในการที่จะให้เราได้สามารถออกแบบ แมชชิ่ง เลือกสีของตัวรองเท้ารวมถึงการเลือก LOGO, รูปแบบและลายของ SWOOSH, สีและลายของโฟม, รูปแบบและสีของเชือก รวมถึงการเลือกและแปะข้อความต่างๆ เองตามใจในจุดที่กำหนดไว้  ตัวอย่างเช่นภาพด้านล่างที่แอดเพิ่งจัดมาแบบสดๆ ร้อนๆ  ออกแบบเองเลยนะนี่ 


                     


น่าสนใจมากๆ นะครับ ตอนนี้ nike ยังไม่เปิดว่างจำหน่าย Tempo Next% BY You แต่ให้เราไปลอง ดีไซน์ ก่อนได้แล้วที่  >> Air Zoom Tempo Next% By YOU

Samsung Galaxy S20 FE เปิดจองแล้ววันนี้(พร้อมรายละเอียดราคา , การจองและสเปคเครื่อง)




Samsung Galaxy S20 FE พร้อมเปิดจองล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันนี้ - 11 ต.ค. 63 


สเปค

  • หน้าจอ :  Super Amoled ขนาด 6.5 นิ้ว (Infinity O Display)
    ความละเอียด Full HD+ ,Refresh Rate 120 Hz , รองรับ HDR 10+
  • ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + One UI 2.5
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 865 (รุ่น 5G) และ Samsung Exynos 990 (รุ่น 4G)
  • RAM : 6 GB/8 GB (LPDDR5)
  • ROM : 128 GB/256 GB
  • 2 Sim (1 Nano + 1 Nano-Hybrid Micro SD Card up to 1 TB)
  • ขนาดตัวเครื่อง 74.5 x 159.8 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 190 กรัม

คลื่นที่รองรับ

  • [LTE] Enhanced 4x4 MIMO
    Up to 7CA, LTE Cat.20
    ดาวน์โหลดสูงสุด 2.0 Gbps / อัพโหลดสูงสุด 200Mbps
  • [5G] N1, N3, N5, N7, N8, N28, N41, N78

กล้องหลัง 3 เลนส์

  • เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.8 / รองรับ Dual Pixel AF , OIS
  • เลนส์ Ultra Wide Angle 123 องศา12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • เลนส์ TelePhoto 8 ล้านพิกเซล f/2.4
  • Hybrid Optical Zoom 3 เท่า , Space Zoom สูงสุด 30 เท่า

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.2

  • รองรับระบบสแกนใบหน้า
  • รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68
  • รองรับ WiFi 6 , NFC/Bluetooth 5.0
  • รองรับ​ Samsung PAY
  • ลำโพงคู่แบบ Stereo by AKG + Dolby Atmos
  • พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
  • แบตเตอรี่ความจุ : 4500 mAh + 25W Adaptive Fast Charging , Fast Wireless Charging และ Reverse Wireless Charging
  • กันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP68 (*IP68 ผ่านการทดสอบโดยการแช่ในน้ำสะอาดลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที ไม่แนะนำให้ใช้ในน้ำทะเลหรือในสระว่ายน้ำ)
  • วัสดุฝาหลัง : Reinforced Polycarbonate (พลาสติกเคลือบผิว เหมือนกับ Note 20)

มีให้เลือกทั้งหมด สี ได้แก่ Cloud NavyCloud LavenderCloud MintCloud RedCloud Orange และ Cloud White 


*ราคา Galaxy S20 FE ราคา 20,900 บาทและ Galaxy S20 FE 5G ราคา 25,900 บาท

เปิดให้จองล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน เวลา 10.00 น. ถึง 11 ตุลาคม 2563 เวลา 18.00 น. ได้ที่ Samsung Experience Store หรือร้านค้าที่ร่วมรายการ


**พิเศษสุดสำหรับช่วงพรีออเดอร์**

- ลูกค้าที่สั่งจองเครื่องเปล่า Galaxy S20 FE(LTE) รุ่น 128GB รับสิทธิ์อัพเกรดเป็น Galaxy S20 FE 5G รุ่น 128GB มูลค่า 3,000 บาท ฟรีทันที!

- ลูกค้าที่สั่งจอง Galaxy S20 FE 5G รุ่น 256GB จะได้รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษเพียง 22,900 บาท

**นอกจากนี้ ผู้ที่สั่งจอง Galaxy S20 FE และ S20 FE 5G ทุกรุ่นความจุ จะได้รับบริการ Samsung Care+ เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 2,939 บาท รวมประกันอุบัติเหตุตัวเครื่อง ครอบคลุมถึงกรณีหน้าจอแตกระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี







มาไทยแล้ว Samsung Galaxy S20 FE ทั้งรุ่น 5G(Snapdragon865) และ 4G (Exynos990)

 


ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S20 FE อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ยอดนิยม เพื่อเหล่ากาแลคซี่แฟนโดยเฉพาะ

Galaxy S20 FE (กาแลคซี่ เอส 20 เอฟอี) สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy S20 Series ที่รวมเอาฟีเจอร์และนวัตกรรมเด่นๆ ที่สาวกกาแลคซี่แฟนชื่นชอบจากตระกูล S20 Series มาให้เป็นเจ้าของในราคาเข้าถึงได้



Galaxy S20 FE มาพร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ของกล้องที่พร้อมให้คุณได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้ชัดที่สุด ผ่านรูปถ่ายและวิดีโอระดับโปรเกรด อาทิ กล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ที่มีเทคโนโลยี Tetra-binning ที่ช่วยให้การถ่ายรูปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น




 

ถ่ายภาพหรือวิดีโอในที่แสงน้อยได้สีสวยคมชัดมากขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ รวมทั้งการประมวลผลภาพแบบหลายเฟรม (multi-frame processing) พร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Bright Night) ที่นำเทคโนโลยี AI ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีกันสั่นช่วยให้ภาพออกมานิ่งและมีชีวิตชีวามากขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Space Zoom 30X สุดทรงพลัง ที่สามารถซูมภาพระยะไกลได้ถึง 30 เท่า เพื่อให้คุณไม่พลาดรายละเอียดหรือโมเมนต์ที่น่าประทับใจแม้อยู่ไกล พร้อมสำหรับนำภาพและวิดีโอไปปรับแต่งและแชร์ได้แบบเรียลไทม์เหมือนมือโปร




สะท้อนความเป็นตัวตนอย่างมีสไตล์ผ่านสีสันใหม่ของ Galaxy S20 FE ที่มาพร้อมกับ เฉดสี ทั้งสี Cloud Navy, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange และ Cloud White พร้อมทั้งดีไซน์บางเฉียบสุด
ไอคอนิกให้กลิ่นอายสมาร์ทโฟนตระกูล 
Galaxy S20 พร้อมพื้นผิวสัมผัสที่ช่วยลดรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือ




 

เต็มที่กับไลฟ์สไตล์สุดโปรด

มอบประสบการณ์การใช้งานสูงสุดด้วย ซัมซุง Galaxy S20 FE ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ทรงพลัง พร้อมหน้าจอ Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว เทคโนโลยี Super AMOLED และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับชมคอนเทนท์วิดีโอและเลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์การเล่นเกมผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ที่เหนือระดับ และรองรับ Xbox Game Pass Ultimate พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มของซัมซุงได้แบบไม่สะดุด ทั้ง Galaxy Buds Live และ Galaxy Fit2





ไร้กังวลในทุกสถานการณ์

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,500 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รองรับการชาร์จเร็ว Super Fast ให้ผู้ใช้งานเต็มที่กับกิจกรรมสุดโปรดโดยไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่ ทั้งยังรองรับการกันน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ IP68 พร้อมสบายใจหายห่วงกับบริการ Samsung Care+ ซึ่งให้บริการส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการซ่อมถึงบ้าน และให้ความครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงหน้าจอแตก รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากของเหลว พร้อมได้รับการอัพเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (OS) เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้เต็มที่


Credit : Jimmy is promo



บริการ Samsung CARE+

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับบริการเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้งานอย่าง Samsung Care+ ซึ่งให้บริการส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการซ่อมถึงบ้านในพื้นที่ให้บริการที่กำหนดโดยซัมซุง หรือบริการรับ-ส่ง เครื่องซ่อมในกรณีอยู่นอกพื้นที่ให้บริการหรือมีการเปลี่ยนอะไหล่ รวมถึงครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หน้าจอแตก และความเสียหายที่เกิดจากของเหลวเป็นระยะเวลา 1 ปี สามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Samsung Care+ ได้ที่ https://www.samsung.com/th/offer/samsung-care-plus/


และท้ายที่สุด ราคาจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่น(คาดว่า)

รุ่น 4G Exynos ราคา 20,900 บาท

รุ่น 5G Snapdragon ราคา 25,900 บาท

รอติดตามอัพเดตอีกครั้ง

เปิดตัว Krungthai NEXT เวอร์ชั่นล่าสุด กับปรากฏการณ์ "Live Life to the NEXT" ให้คุณ "ใช้ชีวิตให้เก่งขึ้น ในแอปเดียว"






กรุงไทย ดึง ณเดชน์ คูกิมิยะ ขวัญใจมหาชนอันดับหนึ่งของเมืองไทย " ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ "Krungthai NEXT" เวอร์ชั่นล่าสุด 
กับปรากฏการณ์ "Live Life to the NEXT" ให้คุณ "ใช้ชีวิตให้เก่งขึ้น ในแอปเดียว" ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ธุรกรรมการเงินยุคดิจิทัล

ชวนคนไทยพบปรากฏการณ์ Digital Banking เหนือระดับ ครั้งใหม่ กับ"Krungthai NEXT" เวอร์ชั่นล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ใช้ชีวิตให้เก่งขึ้น ในแอปเดียว" เสิร์ฟความสะดวกสบาย พร้อมฟีเจอร์เด็ดๆ สุดฮิต มัดใจลูกค้าด้วย A อัจฉริยะ ใช้งานสนุกขึ้น วางรูปแบบฟีเจอร์ใหม่ รวดเร็วโดนใจให้ทุกเรื่องธุรกรรมการเงินออนไลน์ของคุณเก่ง ง่าย ครอบคลุม จบในแอปเดียว






"แรกเริ่มเดิมทีใครจะเชื่อว่า "Mobille Banking" เป็นเรื่องง่าย สะดวก แถมทำให้คนเราเก่งขึ้น" ณเดชน์ คูกิมิยะ เผยว่า "ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผมได้เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวอันแสนอบอุ่นอย่าง "กรุงไทย" ในฐานะแบรนด์พรีเซ็นเตอร์ ได้มีโอกาสไป Roadshow ต่างจังหวัด นำบริการล้ำๆ อย่าง Krungthai NEXT ไปให้พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศได้เข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง นับว่าเป็นความรู้สึกที่ดีและอบอุ่นมากเลยครับ ชซึ่งเห็นได้เลยว่า Krungthai NEXT ได้รับการตอบรับจากทุกคนอย่างล้นหลามจริงๆ และเห็นหลายคนใช้แอปพลิเคชั่น "Krungthai NEXT" ได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วขึ้น










 สำหรับผมถึงแม้การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์มีเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่กังวลเพราะสามารถทำได้ทันทีผ่าน "Krungthai NEXT" ตอบโจทย์คนที่เดินทางบ่อยและ ไม่ค่อยมีเวลาอย่างผมเป็นอย่างมาก


ด้วยฟีเจอร์เด่นของ "Krungthai NEXT" ที่มีจุดแข็งเรื่องการให้บริการ โอน เติม จ่าย ที่มีเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทั้งช่องทางภาครัฐ และเอกชน เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าบริการ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต บริการรับชำระค่าปรับจราจร และยังครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ทั้ง กิน เที่ยว หรือช้อปปิ้ง เช่น Foodpanda Shopee Lazada Agoda Central เป็นต้น 






ส่วนการกู้ยืมเงินออนไลน์ สามารถทำได้โดยกรอกรายละเอียดและข้อมูลให้ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารติดต่อกลับได้อย่างสะดวก


Krungthai NEXT Savings เปิดบัญชีใหม่ ผ่าน Krungthai NEXT รับดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% ต่อปี ชื้อประกันเดินทางออนไลน์และตรวจสอบกรมธรรม์ได้ทุกที่ ทุกเวลา เลือกได้ตามจำนวนวันเดินทาง จ่ายตามไลฟ์สไตล์ คุ้มครองรอบด้านอย่างสบายใจ ตลอดจน สมัครบัตร Krungthai Travel Card บัตรแรกและบัตรเดียวที่แลกเงินตราต่างประเทศด้วยตนเองได้ถึง 18 สกุลเงินในอัตราพิเศษ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือบัตร Krungthai Travel UnionPayDebit Card แลกสกุลเงินหยวนในอัตราพิเศษ สามารถเปิดบัตรเสริมและสร้างกระเป๋าเงินสกุลบาทสำหรับใช้จ่ายภายในประเทศได้"ด้าน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า "Krungthai NEXT เวอร์ชั่นใหม่ นำเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกทำให้ลูกค้าและประชาชนได้ใช้ชีวิตเก่งขึ้นในแอปเดียว ด้วย Cloud Native ที่มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี 3s ได้แก่

👉Scalability - รองรับการทำธุรกรรมการเงินที่พร้อมกันจำนวนมหาศาลในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
Stability - มีความเสถียรใช้งานได้อย่างลื่นไหล
♦Security มีความปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยีระดับโลก นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี AlI (Artificial intelligence) สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานผ่าน Smart Transaction ที่เรียนรู้และขึ้นแถบรายการธุรกรรมทางการเงินที่ใช้งานบ่อย

Smart Banner ทำหน้าที่แจ้งเตือนรายการสำคัญ เช่น การครบกำหนดชำระค่าเบี้ยประกัน การต่ออายุบัตรเดบิต บัตรเครดิต การแจ้งเตือนวันเกิด เป็นต้น
🚩Smart Promotion รู้ใจด้วยโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดย กรุงไทย Krungthalปรับ User Experience (UX) และ User Interface (UI) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า สามารถเปิดใช้งานด้วย FaceAuthentication สแกนใบหน้าและบัตรประชาชน เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวตน หมดกังวลเรื่องการลืม Usemame และ Password

เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรืออีเมลเพื่อรับรหัส OTP ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สาขา ใช้งานสนุกขึ้น โดยการตั้งรูปโปรไฟล์ ปรับแต่งหน้าโฮมเพจได้ตามใจ และมีการปรับโฉมธีมสีใหม่อัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือเทศกาลสำคัญ ใช้งานสนุกขึ้น โดยการตั้งรูปโปรไฟล์ ปรับแต่งหน้าโฮมเพจได้ตามใจ และมีการปรับโฉมธีมสีใหม่อัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือเทศกาลสำคัญ


นอกจากนี้"Krungthai NEXT ยังคงตอกย้ำกระแสความฮอตของซุปตาร์ขวัญใจมหาชนอันดับหนึ่งของเมืองไทย อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยนับว่าเป็นชายหนุ่มที่สะท้อนแบรนด์คาแร็กเตอร์ของคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจนที่พร้อมเข้าใจ พร้อมตอบสนอง และพร้อมสร้างความสมาร์ทให้คุณเก่งขึ้น ทุกเรื่องธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านความโดดเด่นของ"Krungthai NEXT" เวอร์ชันล่าสุด" นายผยง ศรีวณิช กล่าวปิดท้าย"Krungthai NEXT" พร้อมให้คุณใช้ชีวิตเก่งขึ้นในแอปเดียว เพียงดาวน์โหลด "Krungthai NEXT ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS,Android, HarmonyOS