เปิดตัวแล้ว Sony Wena 3 สายนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ พร้อมคุณสมบัติมากมาย ทั้งจับอัดตราการเต้นของหัวใจ วัดการนอน ฯลฯ

 

Sony Wena 3 ไม่ใช่สมาร์ทวอช หรือนาฬิกาข้อมือนะ แต่มันเป็น "สายนาฬิกาข้อมือ" ที่คุณสามารถนำไไปเปลียนใส่กับสายนาฬิกาข้อมือปัจจุบันได้ คุณจะได้ใส่ทั้งนาฬิกาที่ถูกใจ และสายนาฬิกาที่อัจฉริยะไปพร้อมๆกัน

Wena 3 จริงๆแล้วมันก็คือ Smart Band หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะนี่แหละ แต่มาในรูปแบบของสายนาฬิกา โดยตัวมันเองนั้น สามารถทำได้หลายอย่างมาก เช่น วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจสอบการนอนหลับ นับก้าวเดิน หรือแม้กระทั่งวัดความเครียดของผู้สวมใส่

Wena 3 นั้นเป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก Wena Pro คือเพิ่มขนาดของการแสดงผลที่มากขึ้น รองรับการปัดหน้าจอเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงสามารถตั้งปลุก จับเวลาได้อีกด้วย

จุดเด่นของ Sony Wena 3 ที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือ นอกจากจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แล้ว Wena 3 ยังสามารถวัดค่าการใช้ออกซิเจนของร่างกายเมื่อออกกำลังอย่างเต็มกำลังถึงที่สุด หรือที่เรียกว่า VO2 Max  (มีหน่วยเป็น มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อนาที) หรือพูดอีกแบบคือ เมื่อเราออกกำลังกายอย่างเหนื่อยจนถึงที่สุด ร่างกายเรา 1 กิโลกรัมใช้ออกซิเจนในกระบวนการนี้เท่าไหร่ ในเวลา 1 นาที (*ขอบคุณข้อมูลจาก themomentum.co)  นอกจากนี้ยังสามารถประเมินความเครียด พร้อมทั้งการผ่อนคลาย และยังแทร็คการนอนหลับของคุณว่าเหมาะสมหรือไม่

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ การใช้งานคำสั่งเสียงร่วมกับ Alexa ซึ่งเป็น Virtual Assistant ของ Amazon ตัว Sony Wena 3 มีทั้งไมค์ และลำโพง เพื่อรองรับคำสั่งเสียงต่างๆ และยังมี NFC tag สำหรับใช้สำหรับแตะเพื่อจ่ายเงินอีกด้วย(*ฟีเจอร์นี้ตอนนี้ยังใช้งานได้แค่ในญี่ปุ่น)

แน่นอนว่า ถ้ามันเป็นสายนาฬิกา ย่อมต้องมีมากกว่า 1 แบบ หรือ 1 ดีไซน์  ตัวสายหลักทำจากสแตนเลสสตีล SUS316L และรุ่น Premium Black ได้รับการชุบเคลือบไอออน(ion-plated) ทำให้ภายนอกทนต่อการสึกหรอในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงปัญหาการแพ้นิกเกิลของผู้ใช้งานอีกด้วย

ไม่เพียงแต่สายโลหะเท่านั้น Sony Wena 3 ยังมีสายที่เป็นหนัง และ ยาง ให้เลือกสวมใส่ได้ ไม่จำเจเหมาะกับทุกโอกาส นอกจากนั้นยังกันน้ำในระดับ 5ATM ทำให้สามารถใส่ว่ายน้ำได้ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 สัปดาห์

Sony Wena 3 จะเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 24,000 เยน หรือประมาณ 7,200 บาท(สำหรับรุ่นสายยาง) และรุ่นสายโลหะตัวท็อป ราคา 10,500 บาท และคาดว่าจะวางจำหน่ายในยุโรปต่อไปด้วย ส่วนไทย ก็รอลุ้นกันไปก่อนนะจ๊ะ 

Source : gsmarena