Huawei MatePad 11 ถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกพรีเมียม พร้อมหน้าจอขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2k (2560x1600 พิกเซล) โดยสามารถปรับ Refresh Rate ได้สูงสุดถึง 120Hz และยังน้ำหนักเพียง 485กรัม(รวมแบตเตอรี่) ทำให้สามารถถือใช้งานได้อย่างสะดวก
หากวางแท็บเล็ตในแนวนอน กล้องหน้าความละเอียด 8MP และไฟแจ้งเตือนสถานะถูกวางไว้กึ่งกลางขอบของหน้าจอด้านบน ทำให้พื้นที่การแสดงผลหน้าจอไม่ถูกบังด้วยกล้องหน้า
ปุ่มเปิด-ปิด ถูกวางไว้ทางขอบด้านซ้ายบนของตัวเครื่อง ถัดลงมาเป็นลำโพง 2 ตัว ส่วนขอบด้านบนฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดเสียง ที่ถูกวางตำแหน่งไว้ระหว่างไมโครโฟนทั้ง 3 ตัว ถัดมาทางด้านขวาของขอบบนเป็นตำแหน่งสำหรับติดและชาร์จ Huawei M-Pencil
ขอบเครื่องด้านขวายังมี ลำโพงอีก 2 ตัว และตรงกลางระหว่างลำโพงเป็นตำแหน่งสำหรับ USB Type-C 3.0 ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นช่องใส่ NM Card โดยสามารถรองรับความจุได้สูงสุดถึง 1TB
ด้านหลังของตัวเครื่อง กล้องหลังความละเอียด 13 MP ถูกวางตำแหน่งไว้มุมบนด้านขวา ระหว่างไฟแฟลช LED และไมโครโฟนอีก 1 ตัว
Huawei MatePad 11 มาพร้อม Qualcomm Snapdragon 865 ทำให้การทำงานลื่นไหลไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปพลิเคชันหลายๆแอปพลิเคชั่น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือ แม้จะเล่นเกมส์หนักๆก็ทำได้ดีเยี่ยม
อยากเปิดแอปพลิเคชันหลายๆหน้าจอพร้อมกัน ก็ทำได้ด้วย Multi-Window ที่มาในเครื่อง Huawei MatePad 11 สามารถเปิดหน้าต่างได้สูงสุดถึง 4 หน้าต่าง และยังสามารถย่อหน้าต่างแอปพลิเคชันไว้ที่แถบด้านขวาสูงสุด 10 แอปพลิเคชันที่ถูกใช้งานล่าสุด
นอกจากนี้ Huawei MatePad 11 ยังมี App-Multiplier ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถเปิดสองหน้าจอได้จากแอปพลิเคชั่นเดียวกัน ไม่ต้องกดย้อนกลับไปกลับมาให้เสียเวลา
HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ Huawei MatePad 11 สถทำงานร่วมกับแล็บท็อปของ Huawei ได้อย่างง่ายๆผ่านโปรแกรม PC Manager ซึ่งสามารถเลือกการทำงานร่วมกันได้ 3 แบบ คือ Extend Mode, Mirror Mode และ Collaborate Mode ที่สามารถทำการโยกไฟล์ ข้อความ และ รูปภาพไปมาระหว่างแล็บท็อป และ Huawei MatePad 11 ผ่าน Huawei Share ได้สะดวกโดยไม่ต้องต่อสาย
Huawei MatePad 11 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,250 mAh ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงถึง 12 ชั่วโมง และยังรองรับระบบ Super Charge กำลัง 22.5W
สรุปสเปกของ Huawei MatePad 11
หน้าจอ : IPS LCD, 2560x1600 พิกเซล, 10.95 นิ้ว, Refresh Rate 120Hz
ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core, GPU Adreno 650
หน่วยความจำ : แรม 6GB, ความจุ 128GB รองรับ NM Card สูงสุด 1TB
การเชื่อมต่อ : WIFI 802.11 B/G/N/AC/6, Bluetooth 5.1, ช่องเสียบ USB-C
ระบบเสียง : ลำโพง Stereo 4 ตัวจูนโดย Harman / Kardon,ไมโครโฟน 4 ตัว พร้อมตัดเสียงรบกวน
กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล F/1.8 พร้อม Auto Focus, ไฟแฟลช
กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ : 7250mAh รองรับ Fast Charge กำลัง 22.5W,และ Reverse Charging แบบสาย
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า
ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 2.0
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวเครื่อง Huawei MatePad 11
ที่ชาร์จสายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
คู่มือเริ่มต้นการใช้งาน
เข็มจิ้มถาม NM Card
Huawei Smart Magnetic Keyboard มาพร้อมแป้นพิมพ์แบบ QWERTY มีขนาดปุ่มและระยะหว่างระหว่างปุ่มที่พอเหมาะ ทำให้พิมพ์ได้คล่องและใช้งานง่าย โดยรองรับการตั้งของตัวเครื่อง Huawei MatePad 11 ที่เอียง 55 องศาและ 65 องศา อีกทั้งยังสามารถใช้ปุ่ม Fn และคีย์ลัดต่างๆ ทำให้สามาถทำงานได้เสมือนทำงานบนคอมพิวเตอร์
ในเรื่องของการยึดกับตัวเครื่อง Huawei MatePad 11 นั้นสามารถทำได้ดี ติดเพียงแต่ หากต้องการจะยกเปิดขึ้นเพื่อใช้งาน หลังจากวางคว่ำหน้าลง มีโอกาสน้อยมากที่จะเปิดขึ้นโดยที่เคสไม่หลุดจากตัวเครื่อง
Huawei M-Pencil (2nd generation) (มาพร้อมเครื่องสี Matte Grey) มาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดแรงกดและความเอียง 4,096 ระดับ เพื่อการใช้งานอย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการจดโน๊ต หรือการวาดภาพ ที่ทำได้อย่างแม่นยำ ด้วยการออกแบบแบบ Touch IC และเซ็นเซอร์ที่ถูกซ่อนไว้ในตัว M-Pencil ทำให้สามารถใช้นิ้วชี้แตะสองครั้งที่ ด้ามปากกาตรงส่วนเว้า เพื่อเป็นสลับหัวปากกา หรือสลับเป็นยางลบ หรือสลับเป็นถาดสี ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า โดยสามารถตั้งค่าได้ในเมนูตั้งค่า >>> ฟีเจอร์การเข้าถึง >>> สไตลัส >>> แตะสองครั้ง
Huawei M-Pencil ยังรองรับ การเขียนแบบ Free Script ที่สามารถเปลี่ยนลายมือเป็นตัวพิมพ์ได้ทันทีในช่องค้นหาในแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น HUAWEI Browser รวมถึง Line, Facebook, Messenger โดยรองรับภาษาไทย เมื่อตั้งค่าตัวเครื่องเป็นภาษาไทย
สำหรับการจดโน๊ตต่างๆด้วย Huawei M-Pencil ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยฟังค์ชั่น Instant Shape ที่จะปรับรูปวาดของเราที่อาจจะไม่กลม หรือ เป็นสี่เหลี่ยมบูดๆเบี้ยวๆ ให้เป็นวงกลม และสี่เหลี่ยมที่สวยงามได้เพียงวาดรูปที่เราต้องการเสร็จแล้วค้างไว้ 3 วินาทีเท่านั้น กับอีกหนึ่งฟังค์ชั่นนั่นก็คือ Instant Table ที่จะช่วยสร้างตารางสวยๆให้เราได้ง่ายๆ เพียงวาดสี่เหลี่ยมขึ้นมาก่อน แล้วลากเส้นที่เราต้องการสร้างตารางแล้วค้างไว้ นับ 1 2 3 ก็จะได้ตารางสวยๆแบบมือโปร
ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่ Huawei M-Pencil หมด เพียงแต่นำไปแปะไว้ที่ของเครื่องด้านบน ก็จะทำการชาร์จอัตโนมัติ มีสิ่งที่ต้องระวังเพียงอย่างเดียวคือ แม้ว่าตัวแม่เหล็กจะดูดกับตัวเครื่องไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ก็ยังมีบางจังหวะที่ทำให้ Huawei M-Pencil สามารถหลุดหล่นได้อยู่ดี
การเชื่อมต่อ Huawei M-Pencil (2nd generation) และ ทั้ง Huawei Smart Magnetic Keyboard สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่าย โดยจะมีข้อความแจ้งให้เชื่อมต่อเด้งขึ้นมาเมื่อเรานำอุปกรณ์เสริมมาติดกับตัวเครื่อง Huawei MatePad 11
เรื่องการใช้งานอาจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนกังวล เพราะไม่มี Google Service แต่จากที่ลองใช้มา Huawei App Gallery รองรับการโหลดแอปพลิเคชั่นได้เกือบทั้งหมด หากค้นหาใน App Gallery แล้วไม่เจอ ยังสามารถใช้ Petal Search ค้นหาและกดติดตั้งจากลิงค์ได้เลย
สำหรับการใช้งาน Gmail, Google, Maps, YouTube, Drive ก็สามารถทำได้ผ่านการใช้งาน Browser ที่มากับตัวเครื่อง
Huawei MatePad 11 วางจำหน่าย 2 แบบ
1. สี Matte Grey + Huawei M-Pencil (2nd generation) ในราคา 19,990 บาท
2. สี Isle Blue (ไม่มี Huawei M-Pencil) ในราคา 15,990 บาท
สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ร้าน HUAWEI Store, HUAWEI Experience Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ หรือผ่านลิงค์ https://shp.ee/ai2y4vf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น