ไทยซัมซุงมุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกันกับสังคมไทย พัฒนาพลังคนพร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิตของคนไทยที่ดีกว่าเดิม

ในมุมมองของผู้บริโภคยุคใหม่ ความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์อาจไม่ใช่เหตุผลเดียวในการเลือกซื้อสินค้าอีกต่อไป เพราะปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของคนรุ่นใหม่กว่า 80% คือวิสัยทัศน์และพันธกิจของแบรนด์ที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจของแบรนด์ในการผลักดันแนวความคิดและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์ทางการตลาดเท่านั้น

ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ คือตัวอย่างของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถต่อยอดวิสัยทัศน์สู่หลากหลายโครงการที่ช่วยยกระดับชีวิตของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยตลอดเวลา 32 ปี ที่ผ่านมา ไทยซัมซุงทุ่มเททรัพยากรเพื่อสร้างสรรค์โครงการด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนไทย และการดำเนินธุรกิจโดยใส่ใจคนในสังคม รวมถึงการปรับโครงสร้างกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย

ตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ ซัมซุงมุ่งมั่นใช้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อเป็นส่วนขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปยังอนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ ภายใต้แนวคิด “มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน” (Together for Tomorrow! Enabling People) ใน 3 แง่มุมหลัก ได้แก่ Education (การศึกษา), Empowering (เติมเต็มความสามารถ), และ Environment (สิ่งแวดล้อม)

Education: อนาคตของสังคมเริ่มต้นที่เยาวชนของชาติ

โลกของวันพรุ่งนี้เป็นของเยาวชน และถึงแม้ว่าอนาคตจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความท้าทายมากมาย การศึกษาคืออาวุธที่เยาวชนจะใช้เสริมศักยภาพและเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ ซัมซุงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้ทำกิจกรรมมากมายร่วมกับเยาวชนอย่างใกล้ชิด เพื่อมอบโอกาสในการเข้าถึงความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ดีขึ้น ซัมซุงเชื่อว่าคนทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะมาจากไหน อายุเท่าไร หรือมีข้อจำกัดอะไรก็ตาม ไทยซัมซุงช่วยส่งเสริมเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อจะได้เป็นแรงขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคต

ผลการศึกษาของ McKinsey & Company พบว่า เมื่อเทคโนโลยีรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ช่องว่างทางโอกาสการเติบโตในสายอาชีพก็เพิ่มสูงขึ้น โดยคนที่มีความรู้และทักษะทางเทคโนโลยีจะมีการเติบโตที่มากกว่า นี่จึงเป็นแรงผลักดันให้ ไทยซัมซุง จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Samsung Innovation Campus หรือ SIC โครงการที่ส่งเสริมทักษะในยุคดิจิทัลผ่านการอบรมโค้ดดิ้ง (Coding) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและบุคลากรทางการศึกษาของไทยให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมโค้ดดิ้ง และยังมีตัวอย่างความสำเร็จ อย่าง นายภาสกร ภัทรภากร อดีตนักเรียน SIC ที่สามารถเข้าศึกษาต่อที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หลักสูตรนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และกลับมาเป็นผู้ช่วยสอนในโครงการ SIC ปีต่อมาอีกด้วย

นอกจากนี้ ไทยซัมซุงยังให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมด้านการศึกษาของเด็กไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาที่เด็กไทยจำเป็นต้องเรียนหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ซัมซุงจึงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศได้เข้าถึงการศึกษารูปแบบใหม่ โดยการมอบแท็บเล็ตให้โรงเรียนในถิ่นทุรกันดารและช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้ และยังนับเป็นการปูพื้นฐานเพื่อพร้อมรับรูปแบบใหม่ของการเรียนรู้แห่งอนาคตให้กับเด็กไทย

ด้านทักษะในสายอาชีพ ไทยซัมซุงให้ความสำคัญกับความสามารถและพรสวรรค์ในงานช่าง ผ่านโครงการ Samsung Dual Vocational Education หรือ Samsung DVE ที่สร้างพื้นที่ให้กับนักเรียนสายอาชีวะได้แสดงความสามารถและเพิ่มโอกาสการทำงาน โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พัฒนานักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ได้เข้าไปเรียนรู้และสัมผัสกับโลกของการทำงานจริงในศูนย์บริการซัมซุงทั่วประเทศ

Empowering: ดูแลคนไทยอย่างใส่ใจ ร่วมสร้างอนาคตที่สดใส

ด้วยคำกล่าวที่ว่า “The People are the Company”  ซึ่งหมายความว่าทรัพยากรบุคคลคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของบริษัท ไทยซัมซุงจึงนิยามความสำเร็จของแบรนด์ด้วยสิ่งดีๆ ที่สามารถมอบให้กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน พาร์ตเนอร์ หรือสังคม ซัมซุงมองเห็นถึงศักยภาพที่เป็นไปได้และพร้อมเป็นตัวช่วยดึงความสามารถของคนรอบข้างออกมา เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้คนในองค์กรและสังคม

ซัมซุงทุ่มเทในการสนับสนุนพนักงานให้พัฒนาทักษะและความสามารถให้เต็มศักยภาพ ไทยซัมซุงเปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับเข้าถึงคลังความรู้หลายหลายรูปแบบ หลายวิชา บนหลายแพลตฟอร์ม โดยจัดสรรงบราว 10 ล้านบาทต่อปี เพื่อสนับสนุนคอร์สเรียนต่างๆ ที่พนักงานต้องการได้รับความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ด้านการบริหาร หรือ ความรู้เชิงเทคนิค ทำให้พนักงานของไทยซัมซุงมีความสามารถรอบด้านและสามารถรับมือกับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงแต่คนในองค์กรเท่านั้นที่ไทยซัมซุงใส่ใจดูแล แต่รวมถึงคนในสังคมอีกด้วย เช่น ช่วยให้เกษตรกรไทยได้ก้าวสู่ยุค AgriTech อย่างมั่นใจ เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ รวมถึงลดต้นทุน ด้วยหลักการทำเกษตรแบบแม่นยำ (precision farming) โดยไทยซัมซุงร่วมมือกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด สนับสนุนสมาร์ทดีไวซ์ เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ใช้ควบคู่ไปกับโซลูชันการเกษตรอัจฉริยะ และเข้าถึงเทคโนโลยีโดรนและภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อนำข้อมูลมาบริหารจัดการพื้นที่ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้สูงสุดถึง 20%

ความใส่ใจคนในสังคมไทยยังรวมไปถึงแรงงานฝีมือที่ทำงานใกล้ชิดกับซัมซุงในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ อย่าง ช่างเครื่องปรับอากาศอีกด้วย โดยซัมซุงได้พัฒนาโครงการ AC Installer Community ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดทำคอร์สฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ เพื่อพัฒนาศักยภาพและความสามารถ พร้อมยกระดับทักษะให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตลอดจนส่งเสริมให้ช่างมีใบรับรองตามกฎหมาย เพื่อเพิ่มทรัพยากรบุคคลให้ตลาดที่กำลังขาดแคลนแรงงานที่มีความสามารถและทักษะในการปฏิบัติการ

Environment: ดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ซัมซุงเชื่อว่าแบรนด์จะต้องปรับเปลี่ยนการปฏิบัติการในทุกะดับ ตั้งแต่การผลิตจนถึงโครงการเชิงนโยบาย ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติและสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนรุ่นต่อไป โดยซัมซุงเริ่มให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2535 ด้วย ปฏิญญาด้านสิ่งแวดล้อม (Samsung Environmental Declaration) ไทยซัมซุงรับเอาวิสัยทัศนะ “Planet First” มาใช้ในประเทศไทยและได้ต่อยอดให้เกิดเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การผลิต ประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดการขยะอิเลคโทรนิคส์

ไทยซัมซุงเริ่มต้นดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต โดยการลดปริมาณขยะพิษและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ เช่น โรงงานผลิตเตาอบของไทยซัมซุงเปลี่ยนวิธีการเคลือบผิวเครื่องใช้ไฟฟ้าจากการใช้สารเคมีประเภทกรดปริมาณมากในการเคลือบผิวด้านในของเตาอบ มาเป็นการใช้วิธี Low Temperature Coating ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในกระบวนการนี้เลย (Zero Chemical Waste) อีกทั้งเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรน้ำในการทดสอบการรั่วไหลของผลิตภัณฑ์ มาเป็นใช้ความดันลมแทน ทำให้ลดการสร้างปริมาณน้ำเสียลง

ซัมซุง ร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยหันมาใช้วัสดุกระดาษหรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์แทนการใช้พลาสติก ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึงกล่องบรรจุภัณฑ์อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น บรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S21 Series 5G มีส่วนประกอบของพลาสติกอยู่เพียง 4% และใช้กระดาษเพียง 58% เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy S7 ส่งผลให้ปริมาณการตัดต้นไม้ลดลงถึง 44,802 ต้นต่อปี นอกจากนี้ซัมซุงยังออกแบบบรรจุภัณฑ์ทีวีแบบ Eco Packaging เป็นพิเศษเพื่อการรียูส (reuse) ให้ผู้ซื้อได้มีส่วนร่วมในการักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์มาทำเป็นของใช้ภายในบ้านได้หลากหลายรูปแบบ

ความมุ่งมั่นของไทยซัมซุงต่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมยังเห็นได้จาก การส่งเสริมการกำจัดขยะอิเลคโทรนิคส์อย่างถูกต้องเพื่อลดมลพิษและสารพิษ ผ่านแคมเปญ “เก่าแลกใหม่” เปิดโอกาสให้นำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าไม่จำกัดแบรนด์มารับส่วนลดเพื่อซื้อเครื่องใหม่ได้ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสภาพเครื่อง นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ AIS ทำโครงการ “คนไทย ไร้ E-Waste” ชวนคนไทยทิ้งขยะอิเลคโทรนิคส์ที่ถังขยะ E-Waste ณ ซัมซุงสโตร์ โดยโครงการนี้สามารถนำขยะอิเลคโทรนิคส์ไปกำจัดอย่างถูกวิธีแล้วมากกว่า 2 แสนชิ้น

ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซัมซุงมุ่งมั่นสร้างสังคมไทยที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนให้คนไทยและประเทศไทยได้ก้าวสู่อนาคตที่ดีก้าวเดิมพร้อมสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน ซัมซุงเชื่อมั่นว่า พลังของนวัตกรรมเทคโนโลยีผสานกับศักยภาพของคนในสังคมไทยสามารถเปลี่ยนปัจจุบันและอนาคตให้ดีกว่าเดิมได้ โดยไทยซัมซุงจะ “มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน” ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

3 ทิปสุดคูลในการเลือกมอนิเตอร์เกมมิ่งคู่ใจ สำหรับเกมเมอร์หน้าใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการ

 

วงการเกมถ้าใครได้เข้าไปแล้วออกยาก ยิ่งถ้ามีอุปกรณ์เจ๋งๆ ช่วยเติมเต็มประสบการณ์แบบสุดทุกด้าน เกมเมอร์มือใหม่ก็พร้อมเทิร์นโปร แน่นอนว่าไอเท็มสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยคือหน้าจอมอนิเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทั้งแสดงผลได้อย่างคมชัด ภาพลื่นไหล สีสันสมจริง มีความสว่างที่เหมาะสมพร้อมให้เราเห็นทุกย่างก้าวของศัตรูและเตรียมโจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างทันท่วงที วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 ทิปสุดปังในการเลือกเกมมิ่งมอนิเตอร์คู่ใจว่าควรมีคุณสมบัติเด่นด้านใดบ้างจึงจะตอบโจทย์เกมเมอร์ทั้งมือใหม่และรุ่นเก๋าได้อย่างครบเครื่อง และหากใครที่กำลังมองหาหน้าจอใหม่มาไว้เล่นเกมแบบมันส์ๆ ฉลองปีใหม่ หัวเว่ยจัดให้แล้ววันนี้กับ HUAWEI MateView GT 27” ที่โดดเด่นทั้งประสิทธิภาพการใช้งานและดีไซน์ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคอเกม

 

รีเฟรชเรทหน้าจอต้องสูง เพื่อเฟรมเรตภาพที่ลื่นไหลสำหรับแมตช์มัลติเพลเยอร์สุดเข้มข้น

 

 

 

สิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์คือประสบการณ์การเล่นเกมแบบลื่นไหลไม่มีคำว่าสะดุด ดังนั้นการแสดงผลของหน้าจอจึงต้องไร้ความหน่วงมากวนใจให้เสียอารมณ์ จึงควรมองหาหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีค่ารีเฟรชเรทสูงเป็นพิเศษจะได้เต็มอิ่มกับอรรถรสแบบไม่ขาดตอนและไม่พลาดแม้เพียงเสี้ยววินาทีในเกมการแข่งขันอันดุเดือดเข้มข้นไม่ว่าจะเป็นแบบลุยเดี่ยวหรือลุยพร้อมกันแบบมัลติเพลเยอร์กับเพื่อนๆ ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับคุณสมบัติด้านนี้ HUAWEI MateView GT 27” ยืนหนึ่ง เพราะจัดเต็มกับรีเฟรชเรทสูงถึง 165Hz ซึ่งหมายความว่าเกมมิ่งมอนิเตอร์รุ่นนี้สามารถแสดงผลภาพได้ถึง 165 ภาพต่อวินาที เก็บรายละเอียดครบให้คุณไม่พลาดและพร้อมเอาชนะทุกความท้าทายแบบอยู่หมัด

 

ภาพต้องชัด สีต้องแจ่ม เพื่อการแสดงผลภาพในเกมได้อย่างสวยงามตระการตา

 

 

นอกจากเรื่องความลื่นไหล อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญไม่แพ้กันคือความคมชัดของภาพและสีสันที่จัดจ้านสะดุดตาบนหน้าจอเพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสสุนทรีย์ขณะเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นหากเกมเมอร์ต้องการยกระดับประสบการณ์ความมันส์ขึ้นไปอีกขั้นก็ต้องเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลได้คมชัดไม่ต่ำกว่า 2K มีระดับความสว่างที่เหมาะสมและนำเสนอสีสันได้สมจริง อย่าง HUAWEI MateView GT 27” ถือเป็นดีไวซ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด เพราะมาพร้อมกับความละเอียดระดับ 2560 x 1440 รองรับระบบ HDR-10 และอัตราความคอนทราสต์ 4000:1 แถมยังมีขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 ทำให้ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอมีความละเอียดคมชัดและสีสันสวยสดมาตรฐานเทียบเท่าโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว ทั้งยังได้ผ่านมาตรฐานระบบการถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland ที่จะช่วยลดแสงสีฟ้าและลดการกระพริบของภาพได้อัตโนมัติ ลดอาการเมื่อยล้าทางสายตา พร้อมให้คุณสนุกได้แบบยาวๆ

 

จอสวย ดีไซน์แจ๋ว ไซส์ใหญ่เต็มตา

 

จะดีแค่ไหนหากมอนิเตอร์ที่ใช้มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องประสิทธิภาพเจ๋งๆ ดีไซน์เท่ๆ และขนาดหน้าจอใหญ่ให้ภาพเต็มตา เก็บทัศนวิสัยได้กว้างไกลทำให้มองเห็นศัตรูได้เป็นวงกว้างและพร้อมตอบสนองอย่างรวดเร็ว ประกาศศักดาให้ทุกคนรู้ว่าเราคือเกมเมอร์ตัวจริงที่พร้อมลุยทุกสนาม ความครบเครื่องแบบนี้มีอยู่ใน HUAWEI MateView GT 27” กับรูปลักษณ์ทรงโค้งที่พอเหมาะกับสายตา มาพร้อมกับความคลาสสิคของตัวเครื่องสีดำและวงแหวน Frost Silver Star Ring บริเวณด้านหลัง ทั้งยังสามารถตั้งบนโต๊ะหรือติดตั้งบนกำแพงได้ตามความสะดวกของพื้นที่ พร้อมปรับหน้าจอให้เอียงได้ตั้งแต่ -5 ถึง 20 องศา เรียกได้ว่าหมดห่วงเรื่องความเมื่อยล้าขณะใช้งานไปได้เลย

 

นอกจากคุณสมบัติเด่นๆ ทั้ง 3 ด้าน ความคล่องตัวในการใช้งานก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เกมมิ่งมอนิเตอร์ที่ดีควรจะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย แน่นอนว่า HUAWEI MateView GT 27” ไม่พลาดที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเกมเมอร์ในจุดนี้ กับพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาอย่างครบครันทั้งช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟ ช่องสำหรับ DP และ HDMI ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานอย่างครอบคลุม นอกจากนั้นยังมีจอยสติกแบบ 5 ทิศทางบริเวณด้านล่างหน้าจอ ช่วยให้เกมเมอร์ควบคุมและปรับโหมดต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างอิสระอีกด้วย

 

 

 

 

 

HUAWEI MateView GT 27” ถือเป็นอีกหนึ่งเกมมิ่งมอนิเตอร์ที่น่าสนใจจากหัวเว่ย กับความรอบด้านที่รองรับความต้องการของเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหน้าจอเครื่องใหม่มาใช้งาน ทั้งค่ารีเฟรชเรทที่อัดแน่นถึง 165 Hz การแสดงผลหน้าจอแบบคมชัดจัดเต็ม และการดีไซน์ที่สวยงามกับจอโค้งมนขนาด 27 นิ้ว ในราคาสุดคุ้มเพียง 12,990 บาท พิเศษ! หากซื้อภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 9 มกราคม 2565 ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รับเมาส์เกมมิ่ง HUAWEI Wireless Mouse GT มูลค่า 4,490 บาท และสำหรับใครที่สนใจอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์เข้าไปดูได้เลยที่นี่ หรือสั่งซื้อได้เลยผ่าน HUAWEI Store หรือผ่านช่องทางของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central

น่าจับตา! สมาร์ทโฟน "จอพับ" รุ่นเล็กตัวใหม่บนนิตยสาร Harper's Bazaar คู่กับ "กวัน เสี่ยงถง" ซุปตาร์สาวชาวจีน

ล่าสุดนิตยสารไลฟ์สไตล์ชื่อดังอย่าง Harper's Bazaar ของจีนได้ขึ้นภาพของซุปเปอร์สตาร์สาวชาวจีน "กวัน เสี่ยงถง" โดยในมือเธอได้ถือโทรศัพท์จอพับได้รุ่นหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ HUAWEI P50 Pocket ที่ออกแบบมาเจาะกลุ่มผู้ใช้งานแนวเดียวกับ Galaxy Z Flip ของ Samsung นั่นเอง

HUAWEI P50 Pocket ดูแล้วมีการเน้นดีไซน์แบบหรูหราผสมกับแฟชั่น ด้วยลวดลายของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ และยังมีจุดเด่นอยู่ที่จุดกลมๆสีดำใหญ่ๆ 2 จุดบนฝาพับ ซึ่งคาดว่าจะเป็นกล้องและจอแสดงผลขนาดเล็ก

จากภาพที่เห็น ทำให้เราพอจะสรุปได้ว่า HUAWEI P50 Pocket จะมาพร้อมชุดโมดูลกล้อง 3 ตัว พร้อมแฟลช และจอแสดงผลแบบกลม อยู่บนฝาหน้าของเครื่อง ซึ่งจอขนาดเล็กนี้ยังสามารถใช้เป็นจอสำหรับการถ่ายเซลฟี่ หรือ Vlog ได้อีกด้วย

ด้วยดีไซน์ที่ค่อนข้างหรูหราแบบนี้ คาดว่าน่าจะเจาะตลาดสาวๆเป็นหลัก แต่จากใบโปรโมทวันเปิดตัวที่จะถึง ทำให้เห็นว่า HUAWEI P50 Pocket ไม่ได้มาแค่สีทองอย่างเดียว น่าจะมีสีอื่นให้เลือกด้วยเช่นกัน

สเปคอื่นๆเตรียมรอดูกันแบบเต็มๆวันที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้ได้เลย 

มาแล้ว! Find N สมาร์ทโฟน "จอพับ" รุ่นแรกจาก OPPO

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หลังจากซุ่มวิจัยและพัฒนามา 4 ปี ล่าสุด OPPO ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกออกมาแล้ว ในชื่อ Find N ซึ่ง Find N ในปัจจุบันนี้คือรุ่นที่ 6 ที่ OPPO ได้ทำการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถปล่อยสู่ตลาดได้

Find N นั้นเตรียมเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในงาน OPPO INNO Day ที่มีกำหนดการจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยจากข้อมูลที่ทราบมา Find N นั้นจะมีขนาดหน้าจอด้นหน้า ประมาณ 6.5 นิ้ว และขนาดตัวเครื่องเมื่อพับ เล็กกว่า Galaxy Z Fold 3 ของฝั่ง Samsung

ตัวเครื่องเมื่อพับจอจะมีขนาดค่อนข้าง "กระทัดรัด" เลยทีเดียว แต่เมื่อกางออกจะมีขนาดถึง 8 นิ้ว(ตามแนวทะแยง) นอกจากนั้น Pete Lau :  ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ OPPO ยังให้ข้อมูลว่า Find N ยังได้แก้จุดบกพร่องของสมาร์ทโฟนจอพับ เช่น รอยพับของจอ และความแข็งแรงของตัวเครื่อง

Find N คาดว่าจะมาพร้อมกล้องหน้าขนาด 50 ล้านพิกเซล อยู่ในหน้าจอแบบ punch hole display และแน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมระบบ VOOC Charge

ส่วนสเปคอย่าลืมยังไงก็รอดูเต็มๆในวันที่ 15 ธัาวาคมที่จะถึงนี้ในงาน OPPO INNO DAY 2021

OnePlus Nord 2 5G สีใหม่! Blue Haze สมาร์ทโฟน A.I. Lite Flagship วางจำหน่ายแล้ววันนี้ เปิดตัว 17,990 บาท

 

วันพลัส (OnePlus) ประเทศไทยเปิดตัว OnePlus Nord 2 5G สุดยอดสมาร์ทโฟน A.I. Lite Flagship ด้วยเทคโนโลยี A.I. สุดล้ำ สีใหม่ Blue Haze สีฟ้าสดใส ที่มาในรุ่น RAM 8 + ROM 128GB คุ้มค่าในราคา 17,990 บาท ชูจุดเด่นด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI เน้นย้ำความสามารถของ A.I. ที่อัพเกรดทั้งการเล่นเกม  A.I. Enhanced Gameplay, การถ่ายภาพด้วย A.I. Camera กล้องหลักคมชัด 50 MP ระบบกันสั่น OIS และเซ็นเซอร์ Sony IMX766, และ A.I. Optimized Display การแสดงผลบนหน้าจอที่มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ อย่าง A.I. Color Boost และ A.I. Resolution Boost ยกระดับความละเอียดของภาพและสีให้ชัดเจนสมจริงยิ่งขึ้น, แบตเตอรี่ที่อึดถึง 4,500 mAh และ Warp Charge 65 รองรับ 5G ร่วมกับระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11.3 ที่เร็วและตอบสนองไวที่สุดของ OnePlus พร้อมวัสดุสุดพรีเมียมให้คุณตกหลุมรักตั้งแต่สัมผัสแรก

สามารถหาซื้อและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ พร้อมรับฟรี! ของแถมสุดพิเศษ ผ่านทางช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ ได้ที่ Lazada, Shopee, และ Thisshop

รุ่น RAM 8 + ROM 128GB ราคา 17,990 บาท  (สีฟ้า Blue Haze)

รายละเอียดเพิ่มเติมช่องทาง LAZADA >> https://bit.ly/3pmDgMe

รายละเอียดเพิ่มเติมช่องทาง SHOPEE >> https://bit.ly/3rqg963

รายละเอียดเพิ่มเติมช่องทาง THISSHOP >> https://bit.ly/3loq1cU

สัมผัสเครื่องจริงได้แล้ววันนี้ที่จัดจำหน่ายที่สาขาใกล้บ้านคุณ BaNANA, Jaymart, TG FONE และ OnePlus Experience Zone

และพิเศษกับ OnePlus Buds Pro หูฟังไร้สาย ดีไซน์ใหม่ สีดำ Matte Black สัมผัสประสบการณ์แห่งเสียงที่ดีกว่า ตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Smart Adaptive Noise Cancellation ฟังได้ยาวนานกว่า 38 ชั่วโมง และมาตรฐานกันน้ำ IP55 ในราคาพิเศษสุด 4,499 บาท เฉพาะวันที่ 7 ธันวาคม 64 - 3 มกราคม 65 เท่านั้น  ที่ OnePlus Experience Zone

สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า

สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ

และจัดจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ TG FONE : https://bit.ly/TGFONE-oneplus-buds-pro 

ปล่อยโปรปลายปี HUAWEI MateBook D 15 และ HUAWEI MateBook D 14 ราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 บาทเท่านั้น

ปล่อยโปรปลายปีสำหรับสายรักการทำงานแบบมีประสิทธิภาพและการเรียนแบบมืออาชีพ รักการใช้งานแล็ปท็อป กับ HUAWEI MateBook D 15 และ HUAWEI MateBook D 14 แล็ปท็อปเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ หน้าจอใหญ่เต็มตา HUAWEI FullView Display ตัวเครื่องทนทานดีไซน์โฉบเฉี่ยว กับราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 บาทเท่านั้น 

จอกว้างเต็มตา เพลิดเพลินทุกอรรถรสแห่งความบันเทิงและทำงานได้จุใจ

HUAWEI MateBook D 15 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 87% ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว และ HUAWEI MateBook D 14 ขนาดหน้า จอ 14 นิ้ว ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอ HUAWEI FullView Display ให้ภาพเต็มตากับมุมมองที่กว้างขึ้น และยังถนอมสายตาด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland เหมาะสําหรับการเรียน การทํางานและรับชมความบันเทิงได้อย่างต่อเนื่อง

 

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมความทนทาน หรูหราพกพาง่าย

สำหรับการดีไซน์ HUAWEI MateBook D 15 มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยว บางเบา ความหนาเพียง 16.9 มม. ด้วยน้ำหนักเพียง 1.56 กก. และ HUAWEI MateBook D 14 ความหนาเพียง 15.9 มม. น้ำหนักเพียง 1.38 กก. และกางได้เกือบ 180 องศา เหมาะกับการพกพาไปใช้งานในทุกสถานที่ ทั้งสองรุ่นรองรับการสแกนนิ้วมือเพื่อเปิดเครื่อง “Fingerprint Power Button” พร้อมล็อคอินเข้าใช้งานแล็ปท็อปได้ทันทีโดยไม่ต้องพิมพ์รหัสปลดล็อค และยังมาพร้อม HUAWEI Shark Fin ปรับการไหลเวียนของอากาศระบายความร้อนในเครื่องได้ดี เงียบไร้เสียงรบกวน

 

ทำงานได้สะดวกสบายไร้รอยต่อกับ HUAWEI Share

HUAWEI MateBook D 15 และ HUAWEI MateBook D 14 ยังมาพร้อม HUAWEI Share 3.0 ส่งต่อทุกข้อมูลอย่างลื่นไหลไร้รอยต่อ ด้วย Multi-touch screen เปิดแอปพลิเคชันที่แตกต่างกันได้ 3 แอปพลิเคชันในเวลาเดียวกัน เพียงแตะสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย EMUI 11 ขึ้นไป และ PC Manager 11.0 ขึ้นไป เข้ากับตัวเครื่องบริเวณ Touch Pad ก็แชร์ไฟล์ต่างๆ ข้ามระหว่างดีไวซ์ได้สบาย

 

แบตอึด ชาร์จไว ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวๆ

นอกจากนี้ยังหมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เพราะอแดปเตอร์ และสายชาร์จ Type-C ขนาดกะทัดรัด ที่พกเพียงสายเดียวก็สามารถชาร์จได้ทั้งสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปด้วยเทคโนโลยี HUAWEI 65W SuperCharge™ ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานในการชาร์จแต่ละครั้ง มาพร้อมกล้องป๊อป-อัพ จากกลางตัวเครื่อง ซ่อนอยู่ในปุ่มคีย์บอร์ด ดีไซน์สวย และช่วยประหยัดพื้นที่หน้าจอ 

HUAWEI MateBook D 15 มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ ชิปเซ็ต 11^th Gen Intel® Core^TM i5 processor รุ่นหน่วยความจำ 8GB + 512GB และ 16GB + 512GB ชิปเซ็ต 10^th Gen Intel® Core^TM i5 processor รุ่นหน่วยความจำ 8GB + 256GB และชิปเซ็ต 10^th Gen Intel® Core^TM i3 รุ่นหน่วยความจำ 8GB + 256GB รองรับการทำงานที่หลากหลาย วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท จากราคาปกติ 16,990 บาท

HUAWEI MateBook D 14 มาพร้อมชิปเซ็ต 10^th Gen Intel® Core^TM i3 processor วางจำหน่ายในราคาเพียง 16,990 บาท จากราคาปกติ 17,990 บาท

 

โปรโมชันพิเศษสำหรับทั้งสองรุ่น เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564 สามารถสั่งซื้อได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ ดังนี้

• HUAWEI MateBook D 15 - HUAWEI Store, Shopee, Lazada และ JD Central
• HUAWEI MateBook D 14 - HUAWEI Store, Shopee, Lazada และ JD Central

 

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery

สานต่อแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “Celebrate Magic” ชวนแฟนๆ ดิสนีย์ขาช้อปมาร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ส่งท้ายปี

 

หลังจากประสบความสำเร็จภายใต้ความร่วมมือในแคมเปญ “เซเลเบรต เมจิก (Celebrate Magic)” ในปีที่ผ่านมา ล่าสุด “เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย” และ “ช้อปปี้ ประเทศไทย” เตรียมส่งมอบช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ให้เหล่าสาวกดิสนีย์ขาช้อปตัวจริงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมเฉลิมฉลองมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์สุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี Shopee 12.12 Birthday Sale ด้วยขบวนสินค้าลิขสิทธิ์จากหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์จาก 140 แบรนด์ ให้แฟนๆ ได้เพลิดเพลินไปกับการ      ช้อปปิ้งออนไลน์แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสุดน่ารัก ลวดลายคาแรกเตอร์ดิสนีย์ สตูดิโอส์ และพิกซาร์ หรือสินค้าคูลๆ จากมาร์เวล รวมถึง สตาร์วอร์ส ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ทั้งการร่วมลุ้นรับสินค้าที่ระลึกสุดน่ารักจากดิสนีย์ผ่านกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย เกม และ Shopee Live ให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกกันตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2564 – 9 มกราคม 2565 เท่านั้น

 

แคมเปญ Celebrate Magic มหกรรมเอาใจขาช้อปออนไลน์ตัวจริงกลับมาอีกครั้ง ให้แฟนๆ ได้ร่วมเฉลิมฉลองโมเมนต์แห่งความมหัศจรรย์ไปกับสินค้าลิขสิทธิ์ดิสนีย์ สตูดิโอส์ พิกซาร์ มาร์เวล และสตาร์ วอร์สจาก 140 แบรนด์พันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืดจากคาแรคเตอร์ สตูดิโอ (Character Studio) ชุดนอนจาก โจซิลินส์ (Josilins) ของเล่นจาก ฮาสโบร (Hasbro) ตัวต่อจากเลโก้ (Lego) หุ่นโมเดล ของสะสมจาก ทอยแล๊กซี่ (Toylaxy) ตุ๊กตาจาก การ์ตูน คาแรคเตอร์ (Cartoon Character) และของใช้กระจุกกระจิกน่ารักๆจาก โมชิ โมชิ (Moshi Moshi) ที่มาพร้อมกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แฟนๆ ได้ช้อปกันแบบยาวๆ จนถึงปีหน้า เช่น

• พลาดไม่ได้กับ Brand of The Day ที่ให้นักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้งโค้ดรับเงินคืนสูงสุด 90% และสินค้าถูกลงสูงสุด 70% ในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 วันเดียวเท่านั้น!
• พิเศษสุด ๆ สำหรับนักช้อปที่มียอดซื้อรวมสูงสุด (Top Spender) ในลำดับต่าง ๆ ยังมีสิทธิ์รับของสมนาคุณสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแพนดอร่า (Pandora) ที่จะมาให้คุณ Make a wish come true ด้วยการเลือกคอลเลกชันที่ชื่นชอบได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์ เจ้าหญิงดิสนีย์ หรือ สตาร์ วอร์ส จำนวน 2 รางวัล
• เตรียมพบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษ “เก้า นพเก้า เดชาพัฒนคุณ” ที่จะมาร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ส่งท้ายปีไปกับสาวกดิสนีย์ บน Shopee Live ในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 เวลา 11:00 – 12:00 น. พร้อมแจก Shopee Coins และโค้ดส่วนลดเงินคืนสูงสุด 50%
• พิเศษ! สำหรับแฟนๆ ดิสนีย์ สามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย ทั้งช่องทางเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และ
  อินสตาแกรมของช้อปปี้ รวมไปถึงบน Shopee Feed และ Shopee Live เพื่อชิงของสมนาคุณสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง หมอนซุกมือ Tuk Tuk จากเรื่องรายากับมังกรตัวสุดท้าย (Raya and The Last Dragon) (ของรางวัลมีจำนวนจำกัด)

 

งานนี้สาวกดิสนีย์ตัวจริงห้ามพลาด! ตามไปช้อปกันได้แล้ว ที่นี่ หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เฟซบุ๊ค Shopee อินสตาแกรม @shopee_th และทวิตเตอร์ @ShopeeTH ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2564 – 9 มกราคม 2565 เท่านั้น