เปิดตัวเตรียมเขย่าวงการสมาร์ตโฟนช่วงปลายปีอีกครั้งกับ VIVO X90 ซีรีส์ ที่ครั้งนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ สวยหรู กล้องเยี่ยม เพราะยังใช้จุดเด่นด้านดีไซน์ฝาหลังเป็นหนังเช่นเคย แต่ครั้งนี้มากับสีแดงที่ร้อนแรงต้อนรับปลายปีเลยทีเดียว
VIVO X90 ซีรีส์ จัดมาให้ 3 สีแดง Red (plain leather), สีดำ Original Black (plain leather), สีด๊ำ ดำ Extreme Black (AG glass), and สีฟ้า Ice Blue (AG glass) โดยสีแดง และดำ ฝาหลังจะเป็นหนัง ส่วนสีฟ้า และสีด๊ำดำ ฝาหลังจะเป็นกระจก
VIVO X90 เปิดตัวโปรเซสเซอร์ MediaTek Dimensity 9200 โดยเป็นรายแรกของโลกที่ใช้กระบวนการ 4 นาโนเมตรรุ่นที่สองของ TSMC นอกจากนี้ ยังมี Flagship CPU octa-core เจนใหม่ , Dimensity Immortalis-G715 กราฟิก GPU 11-core รุ่น Flagship ที่แข็งแกร่งที่สุด และ APU Flagship รุ่นที่ 6
ผลพวงจากการใช้โปรเซสเซอร์ตัวใหม่รวมถึง CPU,GPU ใหม่ทำให้คะแนน AnTuTu พุ่งถึง 1.28 ล้านคะแนน และประมิทธิภาพของการจัดการพลังงานโดยรวม ดีกว่ารุ่น 9000 ถึง 25%
ด้านการระบายความร้อน VIVO X90 series มีระบบระบายความร้อนด้วย ice sheet cooling system (แผ่นน้ำแข็ง?) ในบริเวณกว้างพิเศษ ใช้พื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด 4313 ตร.มม. ในบรรดาโทรศัพท์รุ่นเรือธงของ VIVO
จุดขายอีกอย่างของ VIVO X90 คือกล้อง VCS Bionic Spectrum ซึ่งรวมถึงเซ็นเซอร์หลัก 50MP VCS IMX866 และเลนส์มุมกว้างพิเศษ 108°ความละเอียด 12MP IMX663 ที่มีความผิดเพี้ยนต่ำ
VIVO X90 ใช้หน้าจอ BOE Q9 รุ่นแรกของโลกที่เป็นแบบ light-emitting (ที่จอหน้า) ในขณะเดียวกันก็ใช้การจัดเรียง blue diamond arrangementที่มีความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 452ppi ทั้งนี้หน้าจอยังมีปัจจัยหลักในการถนอมสายตาได้แก่ ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และชิป ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและทำให้ดูสบายตายิ่งขึ้น
ด้านแบตเตอรี่ใส่มาที่ขนาด 4810 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จไว 120W เป็นระบบ Dual-Cell charging ซึ่งสามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายใน 8 นาที ตัวอะแดปเตอร์ชาร์จนั้นแถมมาให้ในกล่อง ยังสามารถเอาไปชาร์จคอมพิวเตอร์ Laptop ได้อีกด้วย
VIVO X90 series ทำงานบนระบบ OriginOS 3 ที่ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
VIVO X90 พร้อมให้พรีออเดอร์แล้ว และจะวางจำหน่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 (ที่จีน)
ราคาคือ:
8GB + 128GB: 3699 หยวน ($518/18,600 บาท)
8GB + 256GB: 3,999 หยวน ($560/20,000 บาท)
12GB + 256GB: 4,499 หยวน ($630/22,600 บาท)
12GB + 512GB: 4,999 หยวน ($700/25,000 บาท)
มาต่อที่ VIVO X90 Pro+ ที่เป็นตัวท้อปของท้อปอีกที เรียกได้ว่ายอดธงบนเรือธงอีกทีของ VIVO
VIVO X90 Pro+ ใช้เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว(ใหญ่ที่สุดตอนนี้) พื้นที่ไวแสงเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เลนส์มีรูรับแสงกว้างเพียง f/1.75 เท่านั้น ดังนั้นปริมาณแสงที่เข้าจึงสูงขึ้น 24% พารามิเตอร์ต่างๆ ได้แก่ เลนส์กระจกเกรด SLR ที่มี Abbe number สูงถึง 81.6 และการเคลือบ Zeiss T* เพื่อขจัดแสงสะท้อนและแสงหลอกได้ดียิ่งขึ้น
VIVO ยังใช้ชิปภาพที่พัฒนาขึ้นเอง( self-developed imaging chip V2) ด้วยเหตุนี้ กล้องหลักขนาด 1 นิ้ว T* ของ Zeiss จึงมีฟีเจอร์ใหม่บางอย่างเพิ่มขึ้นมา เช่น
- วิดีโอฉากกลางคืนที่ยอดเยี่ยม อาศัย V2 เพื่อให้ได้ HDR ที่ปรับเปลี่ยนได้
- การถ่ายภาพดาวบนท้องฟ้าแบบถือกล้องด้วยมือ ระดับการปรับภาพให้เหมาะสมถึงระดับ CIPA 4
- การจับการเคลื่อนไหวที่ใช้กลยุทธ์การเคลื่อนไหวที่มีความหน่วงแฝงต่ำเป็นพิเศษที่น้อยกว่า 30ms
เลนส์มุมกว้างพิเศษของ VIVO X90 Pro+ ได้รับการอัปเกรดเป็นเซ็นเซอร์มุมกว้างพิเศษที่มีความบิดเบือนต่ำ 114° นอกจากนี้ยังมีเลนส์เทเลโฟโต้แบบ Periscope 64MP นี่คือเซ็นเซอร์ IMX758 ที่ปรับแต่งได้ล้ำลึกตัวแรกของโลก รูรับแสง f/1.6 ช่วยให้สามารถใช้กล้องนี้เป็นกล้องถ่ายภาพบุคคลที่ระยะ 90 มม.
VIVO X90 Pro+ รองรับ Super Raw 14 bit เจ้าเดียวในตลาด ข้อดีอื่นๆ ของกล้อง ได้แก่ โหมด video LOG, การบันทึกวิดีโอ 8K 30fps, การปรับ ISO แบบแมนนวลได้สูงสุด 12800, ปรับ EV แบบเรียลไทม์, การปรับเทียบไวต์บาลานซ์ของเกรย์การ์ด, การถ่ายภาพต่อเนื่อง jpg 10 เฟรมต่อวินาที และระบบสีสองชุด
ไม่ใช่แค่กล้องที่เยี่ยม แต่หน้าจอของ VIVO X90 Pro+ มีหน้าจอป้องกันดวงตาแบบสัมผัสพิเศษ 2K E6 เครื่องแรกของโลก ใช้วัสดุเรืองแสง E6 รุ่นล่าสุดของ Samsung ความสว่างสูงสุดถึง 1800 nits รองรับจอแสดงผล XDR และจอแสดงผล Dolby Vision โหมด "Zeiss Natural Color" ของโทรศัพท์สามารถรับรู้ถึงการคืนค่าสีธรรมชาติที่แม่นยำตั้งแต่ส่วนหน้าของการถ่ายภาพไปจนถึงส่วนหลังของจอแสดงผล
นอกจากนั้น คาดว่า VIVO X90 ซีรีส์จะใช้ Chip ขนาด 4 นาโนเมตร Snapdragon 8 Gen 2 และจะรองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 80W และแบบไร้สายที่ 50W
VIVO X90 Pro+ จะเริ่มให้พรีออเดอร์วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 และจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ส่วนราคาจะอยู่ที่
12GB + 256GB: 6,499 หยวน ($910/32,600 บาท)
12GB + 512GB: 6,999 หยวน ($980/35,000 บาท)
ที่มา : gizchina
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น