ก่อนอื่นบอกเลยว่า ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ แต่เรากำลังหาสมาร์ทโฟนให้ญาติอยู่ ในงบที่จำกัด และสามารถใช้งานได้ทั้งโซเชียล ดูหนัง เล่นเกม ทีนี้มาเจอว่า Galaxy A34 5G เทียบราคากับสเปค เรียกได้ว่าน่าจะคุ้มที่สุดละ
สเปคคร่าวๆ
หน้าจอ Super AMOLED 6.6 นิ้ว 1080 x 2340 พิกเซล (Refresh Rate 120Hz)
กล้องหลัง 48 ล้าน(หลัก) + 8 ล้าน(อัลตร้าไวด์) + 5 ล้าน(มาโคร)
กล้องหน้า 13 ล้าน
ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 30fps กล้องหน้าก็เช่นกัน
RAM 8 GB / ROM 128 GB (ใส่ memory card แบบ microSD เพิ่มได้)
ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 1080 Octa-core 2.6 GHz
GPU : Mali-G68 MC4
รองรับ 2 ซิม รองรับ 5G
แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 25W
**กันน้ำ,ฝุ่นมาตรฐาน IP67**
สแกนลายนิ้วมือก็มี ส่วนพวกความสามารถพื้นฐาน เช่น หมุนหน้าจออัตโนมัติ ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ หรือตรวจจับความเคลื่อนไหวของเครื่อง เซนเซอร์หมุนภาพ(Gyroscope) พวกนี้ A34 5G ให้มาครบเลย
ละยิ่งดีไซน์มันคล้าย S23 ที่เป็นตัวท็อปด้วย เรายิ่งชอบ เพราะพอจับถือแล้วไม่ก๊องแก๊ง ให้ความรู้สึกทนทานใช้ได้เลย ทีนี้เรารับอาสาหาเครื่องใหม่ให้ญาติ เลยขอเค้ามาทดลองใช้งานก่อนซักอาทิตย์นึง เพื่อที่ว่าพอเค้าเอาไปใช้ แล้วมีคำถาม จะได้ตอบได้ (เชื่อว่าหลายๆคนก็เป็น ถ้าคนในครอบครัวเห็นว่าสนใจมือถือ ก็มักจะมีคำถามมาถามอยู่บ่อยๆ)
เริ่มแรกเลย ตัวเครื่อง ที่บอกว่ามีความคล้ายตัวท็อป S23 มันคลัายกับ S23 Plus หน้าจอ 6.6 นิ้วเท่ากัน pixel เท่ากันเป๊ะ (ต่างกันที่ชนิดของหน้าจอ) แล้วเป็นจอแบนด้วย ใช้งานง่ายเลย ส่วนตัวเครื่อง A34 มีความหนากว่าเล็กน้อย พอตัวเครื่องคล้ายรุ่นท็อป เวลาถือก็ดูดีแหละ เรียบๆเนี๊ยบๆ อ้อ...หน้าจอเป็นแบบหยดน้ำนะ ที่ว้าวมากคือ เค้าให้รีเฟรชเรทมาที่ 120 Hz เลย จอลื่นไหลดีมากๆ ไม่มีสะดุดเลย
สิ่งถัดมาที่เราให้ความสนใจคือ โซเชียล ดูหนังเล่นเกม ด้วยหน้าจอที่ใหญ่น้องๆรุ่นท็อป เราดูซีรีส์ ดู YouTube คือเต็มตามาก สามารถตั้งค่า YouTube ดูได้ถึงความละเอียด 4K
อีกอย่างคือการดูซีรีส์ บน Netflix นี่ก็ดูได้แบบ FullHD(L1) แถมยังขยายดูได้เต็มจอเลยด้วย ทำได้เทียบเท่ารุ่นท็อปเลย อันนี้ถือว่าดีมากเลย เพราะไม่งั้นจะดูได้แค่ความละเอียด SD ซึ่งมันก็ทำให้ภาพไม่คมชัด
ต่อมาก็เรื่องเล่นเกม ตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่สำหรับ ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 1080 Octa-core 2.6 GHz และ GPU : Mali-G68 MC4 เพราะเห็นว่าเป็นมือถือรุ่นเล็ก แต่พอเราลองเล่นเกมอย่าง Asphalt9 ที่กราฟิกสวยๆ กลับทำได้ดีมาก สามารถเปิดความละเอียดกราฟิกได้สูงสุด และยังทดสอบ Gyroscope ด้วย ซึ่งทำได้ดีมากๆ ไม่มีหน่วง ไม่มีช้า คือดีจนน่าตกใจ เพราะถ้าจะมองว่า สมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นๆ ไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้ ลองดูคลิปตัวอย่างการเล่นเกมได้เลย
ส่วนการเล่นโซเชียลพวก Facebook / Instagram เป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เพราะไม่ต้องใช้ความแรงอะไร แค่มีจอที่ได้ refresh rate 120Hz ก็เล่นได้ลื่นไหลสุดๆแล้ว เรียกได้ว่า่ ไถฟีดแบบติดนิ้วเลย
มาต่อกันที่กล้อง Galaxy A34 5G ให้กล้องหลังมา 3 ตัว มีกล้องหลัก(48MP) กล้องมุมกว้าง(8MP) และกล้องมาโคร(5MP) พอได้ลองใช้จริง ในที่แสงปกติ(กลางวัน) ถือว่าทำได้ดีมาก เพราะถ่ายออกมาแล้ว สีสันสดใสตามสไตล์ซัมซุงเค้าแหละ ในที่แสงน้อย คุณภาพก็อาจจะดร็อปลงหน่อย แต่ก็ยังโอเครับได้อยู่ ส่วนกล้องมาโคร เราว่าทำได้ดีเลย ลองดูภาพถ่ายตัวอย่างกัน
ทดลองถ่ายทั่วไปในที่มีแสงดี ก็ทำได้ดี สีสันตรง ชัดเจน ภาพไม่ฟุ้ง
ส่วนการถ่ายภาพมาโคร จะจำกัดระยะอยู่ที่ 3 - 5 เซนติเมตร โดยเมื่อเราเข้าโหมดมาโคร จะมีข้อความขึ้นเตือนทันที เพื่อให้เรากะระยะได้พอดี ภาพที่ได้ถือว่าชัดเจนใช้ได้ค่ะ
ทำการเทสสปีด ณ ตึกชั้น 26 ยังจับ 5G ได้ คนอยู่คอนโดใช้งานได้สบายๆ ความเร็วก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย
อ้อ...มีอีกอย่างที่เราค่อนข้างประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีในโทรศัพท์ราคานี้ และคิดว่าหลายๆคนก็ไม่น่าจะรู้ หรือเคยใช้ นั่นก็คือ WiFi Calling หรือการโทรด้วยสัญญาณ WiFi นั่นเอง ซึ่งข้อดีของการโทรด้วย WiFi ก็คือ เมื่อเราอยู่ในจุดที่อับสัญญาณโทรศัพท์ เช่น ตึกสูงๆ หรือเมื่อไปเที่ยวแล้วที่พักไม่มีสัญญาณโทรศัพท์(แต่มี WiFi ให้ลูกค้าใช้)
ถ้าเราสามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้ เราก็สามารถใช้ WiFi Calling หรือการโทรด้วยสัญญาณ WiFi ได้ทันที โดยอัตราค่าโทรจะอยู่ในเรตเดียวกับโปรที่เราสมัครอยู่(ไม่ฟรีนะ) ซึ่งมันจะช่วยให้เราไม่พลาดการติดต่อ(หลายๆคนยังต้องติดต่องานด้วยเบอร์โทรอยู่)
สิ่งสำคัญอีกเรื่องที่สำคัญมากๆของแบรนด์ Samsung ก็คือเรื่องการอัพเดตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัย เรียกได้ว่ามีให้อัปเดตกันอยู่ทุกเดือน แถมยังได้รับการอัปเดตในระยะยาวอีกด้วย โดยจะได้รับการอัปเดตความปลอดภัยถึง 5 ปีต่อเนื่องเลย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า สมาร์ทโฟนของคุณจะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยจากพวกมัลแวร์ต่างๆ แน่นอน
ไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัยเท่านั้น ในเรื่องของความต่อเนื่องของระบบปฏิบัติการ Galaxy A34 5G มาพร้อม Android13 ซึ่งทาง Samsung จะทำการอัปเดตไปให้อีก 4 เวอร์ชันเลยทีเดียว (คิดง่ายๆก็ 4ปี) ซึ่งทำให้มั่นใจได้เลยว่า ไม่มีการทิ้งลูกค้า หรือที่คนเรียกกันว่า "ลอยแพ" แน่นอน (อัพเดตไปให้ถึง Android 17 นี่คือที่สุดมากนะ) มือถือราคาหมื่นต้น แต่ระบบภายในสามารถใช้ไปได้อีกต่ำ 4 - 5 ปี นี่หาแทบไม่ได้ในยุคนี้เลย
🌸🍀🌸🍀🌸🍀🌸🍀🌸🍀🌸
บทสรุป จากที่ได้ใช้งานมาทั้ง 7 วัน Galaxy A34 5G ตอบโจทย์การใช้งานได้แบบไม่น่าเชื่อ การใช้งานในชีวิตประจำวันนี่เรียกได้ว่าครบทุกอย่างเลย ทั้งโทรออก/รับสาย เล่นโซเชียล แชท ถ่ายรูป เล่นเกม ดูหนังดูซีรีส์ ฟังเพลง ครบเลย
และถ้าเทียบกับราคา ยิ่งมองว่าคุ้มเงินที่จ่ายไป เพราะราคาเจ้าตัวนี้อยู่ที่ 11,999 บาทเท่านั้นเอง ยิ่งถ้าซื้อกับค่ายโทรศัพท์ มีผูกโปร ก็จะเหลือราวๆ 5,xxx - 8,xxx บาท แล้วแต่แพ็คเกจที่เลือก คุ้มนะ สำหรับใครที่มีงบจำกัด แต่อยากหาโทรศัพท์ที่ใช้งานได้ครบๆ ทั้งใช้งาน ทั้งบันเทิง รับรองไม่ผิดหวัง