Photo from reuters |
รายงานล่าสุดจาก Astrazeneca ชี้แจงว่า จากผลการทดลองเกี่ยวกับระยะเวลาของการรับวัคซีนเข็มที่ 2 พบว่า หากเว้นระยะของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จากเดิม 12 สัปดาห์ เป็น 45 สัปดาห์ ระดับแอนติบอดี้จะสูงกว่าช่วงเวลา 12 สัปดาห์ถึง 4 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วงการให้ยาที่นานขึ้นไม่เป็นอันตราย แต่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นได้
และหากเว้นระยะเพื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster) ไปอีก 6 เดือน นับจากวันที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จะช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีได้หกเท่า และรักษาการตอบสนองของทีเซลล์ไว้ได้ และวัคซีนเข็มที่ 3 นั้นยังช่วยเพิ่มระดับการป้องกัน เชื้อไวรัสโควิด แบบ Alpha (B.1.1.7, 'Kent'), Beta (B.1.351, 'South African') and Delta (B.1.617.2, 'Indian') ได้สูงขึ้นอีกด้วย
ศาสตราจารย์ เซอร์ แอนดรูว์ เจ พอลลาร์ด หัวหน้านักวิจัยและผู้อำนวยการกลุ่มวัคซีนอ็อกซ์ฟอร์ด แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า “สิ่งนี้ควรเป็นข่าวที่สร้างความมั่นใจให้กับประเทศที่มีวัคซีนจำนวนน้อย ซึ่งอาจกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนครั้งที่สอง ประชากรของพวกเขา มีการตอบสนองต่อการให้ยาครั้งที่สองที่ดีเยี่ยม แม้ว่าจะล่าช้าไป 10 เดือนจากครั้งแรกก็ตาม”
อ้างอิง Astrazeneca
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น